คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหามันสําปะหลังหัวเน่าในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

คำหลัก : มันสำปะหลัง มันสําปะหลังหัวเน่า แก้ไขปัญหามันสำปะหลังหัวเน่า

ผู้วิจัย : นิพนธ์ ภาชนะวรรณ

ผู้ร่วมวิจัย : อนุชา เหลาเคน,มะลิวรรณ์ ทบภักดิ์,จักรพรรดิ์ วุ้นสีแซง

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมหาสารคาม สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่4 อุบลราชธานี

ปี: 2554

ประเภทผลงาน: รายงานความก้าวหน้า

จำนวนผู้อ่าน: 72 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหามันสำปะหลังหัวเน่าในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้เทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งปลูก และได้เทคโนโลยีแก้ไขปัญหามันสำปะหลังหัวเน่า ได้ดำเนินการสำรวจ ศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่ กำหนดพื้นที่ทำการวิจัย จัดเวทีเสวนาเกษตรกรกรคัดเลือกเกษตรกรผู้ร่วมทำแปลงวิจัย ซึ่งดำเนินการที่ตำบลสำโรง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหวัดมหาสารคาม ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2553 - 2554 จากการจัดเวทีเสวนาเกษตรกร พบประเด็นปัญหา ดินความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ผลผลิตต่ำ ปัญหามันสำปะหลังหลังหัวเน่าแห้ง จากการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาการผลิตมันสำปะหลังเกษตรกรและนักวิจัยได้กำหนดโจทย์วิจัยเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD 3 กรรมวิธี 4 ซ้ำ ดำเนินการในไร่เกษตรกร โดยการมีส่วนร่วมของเกษตรกร กรรมวิธีที่ 1 ไถเตรียมดินตามวิธีการของเกษตรกรโดยไถด้วยผาล 7 (ในปีที่1 และ2) กรรมวิธีที่ 2 ไถเตรียมดิน โดยไถด้วยผาล 3ในปีที่1 และ2) และกรรมวิธีที่ 3 ไถเบิกดินดานในปีที่1 และไถด้วยผาล 3 ในปีที่2 ผลการดำเนินงานในปี 2553 (ปีที่1) พบว่า กรรมวิธีที่ 3 ไถเบิกดินดาน ที่ระดับความลึกจากผิวดิน 50 เซนติเมตร มันสำปะหลังให้ผลผลิตหัวสดที่ 4,030 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าวิธีการเกษตรกรซึ่งไถเตรียมดินด้วยผาล7 ได้ผลผลิตหัวสดเท่ากับ 3,220 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6 ในขณะที่ทุกกกรรมวิธีพบเกิดโรคหัวเน่าน้อยมาก สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2554 พบว่า กรรมวิธี 3  ไถเตรียมดินด้วยผาล 3 บนพื้นที่เคยไถเบิกดินดานในปีที่1 มันสำปะหลังให้ผลผลิตหัวสดสูดสูงสุด เท่ากับ 3,694 กิโลกรัม/ไร่ สูงกว่าวิธีเกษตรกรซึ่งไถเตรียมดินด้วยผาล 7 คิดเป็นร้อยละ 12.6 และลดการเกิดโรคหัวเน่าแห้งได้ร้อยละ 6.3 ในด้านต้นทุนการผลิต พบว่ากรรมวิธีที่3สูงกว่าวิธีการของเกษตรกรเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายได้สุทธิ พบว่า กรรมวิธีที่3 ให้รายได้สุทธิสูงกว่าวิธีการของเกษตรกรอย่างชัดเจน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 27 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 28-11-2567

แจ้งไฟล์หาย