คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เครื่องอบแบบปั๊มความร้อนสำหรับลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง

คำหลัก : เมล็ดพันธุ์ ถั่วเหลือง การลดความชื้น ระบบปั๊มความร้อน

ผู้วิจัย : พินิจ จิรัคคกุล

ผู้ร่วมวิจัย : อานนท์ สายคำฟู, ภภัสสร วัฒนกุลภาคิน, สุนทรีพร ศรีสมบุญ, วิชัย โอภานุกุล, สิทธิพงษ์ ศรีสว่างวงศ์, ธนพงค์ แสนจุ้ม, เอกภาพ ป้านภูมิ และนิรุติ บุญญา

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิษณุโลก

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 66 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยและพัฒนาเครื่องอบแบบปั๊มความร้อน มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องอบสำหรับลดความชื้นในเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง โดยออกแบบให้เครื่องอบมีขนาด 1.8x2.5x2.3 m (กว้าง x ยาว x สูง) และออกแบบระบบปั๊มความร้อน ในการทดสอบระบบปั๊มความร้อนได้กำหนดค่าแรงดันสารทำความเย็นด้านสูง 3 ระดับ คือ 200, 250 และ 300 psi จากผลการทดสอบพบว่า มีอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในช่วง 30 - 34°C; 38 - 40%RH, 36 - 40°C; 35 - 38%RH และ 40 - 46°C; 32 - 36%RH ตามลำดับ โดยพบว่าช่วงแรงดันด้านสูงเท่ากับ 250 psi เป็นค่าแรงดันที่เหมาะสมในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์สำหรับการลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมของวิธีการลดความชื้นด้วยเครื่องอบแบบปั๊มความร้อน เปรียบเทียบกับตู้อบลมร้อนและแสงอาทิตย์ (ชุดควบคุม) ต่อคุณภาพเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 60 นำเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองความชื้นเริ่มต้นระหว่าง 16.93 - 19.58% มาลดความชื้นด้วยกรรมวิธีดังกล่าวข้างต้นให้อยู่ในช่วง 10.90 - 10.96% (w.b.) ผลการทดลองพบว่าการลดความชื้นด้วยเครื่องอบแบบปั๊มความร้อน (Heat Pump Dryer : HP) และแสงอาทิตย์ (Sun drying) ใช้ระยะเวลา 5 ชั่วโมง โดยวิธี HP และแสงอาทิตย์มีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 37.4 - 41.9°C และ 40.5 - 44.3°C ตามลำดับ ในขณะที่การลดความชื้นด้วยตู้อบลมร้อน (Hot Air Oven : HA) ต้องใช้ระยะเวลานานถึง 10 ชั่วโมง การลดความชื้นด้วยวิธี HP ให้ค่าความงอกมาตรฐานสูงที่สุดเท่ากับ 56.0% รองลงมา คือ วิธีแสงอาทิตย์และ HA เท่ากับ 51.0% และ 50.0% ตามลำดับ ส่วนความแข็งแรงซึ่งวิเคราะห์โดยความงอกภายหลังการเร่งอายุไม่แตกต่างกันทั้งสามกรรมวิธี จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่ผ่านการอบทั้งสามกรรมวิธีมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 4 เดือน เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพของเมล็ดพันธุ์พบว่า ความชื้นของเมล็ดพันธุ์ค่อนข้างคงที่ทั้งสามกรรมวิธีตลอดระยะเวลาการเก็บรักษามีค่าระหว่าง 9.12 - 10.79% อย่างไรก็ตามภายหลังการเก็บรักษา 4 เดือน พบว่าความงอกและความงอกภายหลังการเร่งอายุของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่ลดความชื้นด้วยวิธี HP มีค่าสูงที่สุด รองลงมา คือ การลดความชื้นด้วย HA และแสงอาทิตย์มีค่าเท่ากับ 42.8% และ 22.5%, 31.3% และ 16.5% และ 31.0% และ 10.8% ตามลำดับ จากผลการทดลองสามารถสรุปได้ว่าวิธีการลดความชื้นแบบ HP ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพทั้งภายหลังการลดความชื้นและในระหว่างการเก็บรักษาน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกรรมวิธีอื่นๆ ดังนั้นวิธีการลดความชื้นด้วย HP ที่อุณหภูมิระหว่าง 37.4 - 41.9°C เป็นเวลา 5 ชั่วโมง จึงเป็นวิธีและสภาวะที่เหมาะสมสำหรับลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองให้อยู่ในระดับปลอดภัย และสามารถแนะนำเพื่อทดแทนการลดความชื้นด้วยแสงอาทิตย์ได้และจากการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องจักรมาใช้งานพบว่า ที่กำลังการผลิต 20, 30, 40 และ 50 ตัน/ปี มีต้นทุนการใช้งานตู้อบแบบปั๊มความร้อนสำหรับการลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองเฉลี่ยเท่ากับ 3.65, 2.73, 2.28 และ 2 บาท/กก.แห้ง ตามลำดับ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 20 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 25-12-2567

แจ้งไฟล์หาย