คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสารธรรมชาติ

คำหลัก :

ผู้วิจัย : อกนิษฐ์ พิศาลวัชรินทร์

ผู้ร่วมวิจัย : จารุวรรณ์ รัตนสกุลธรรรม, ศิวัช พลายเสน, สุปรียา ศุขเกษม, ศุภมาศ กลิ่นขจร, ศิริพร เต็งรัง, วิมลวรรณ วัฒนวิจิตร, โกเมศ สัตยาวุธ และสุรีย์รัตน์ รักเหลือ

หน่วยงาน :

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 78 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารธรรมชาติโดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติ สำหรับนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเวชสำอาง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มช่วยย่อยจากเอนไซม์บรอมิเลนในรูปแบบกรานูลฟองฟู่ ผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซิน และผลิตภัณฑ์สีผงจากดอกอัญชัน
          การผลิตเครื่องดื่มช่วยย่อยจากเอนไซม์บรอมิเลนในรูปแบบกรานูลฟองฟู่ ทำการสกัดเอนไซม์บรอมิเลนโดยตีปั่นสับปะรดและคั้นน้ำ จากนั้นนำมาตกตะกอนโปรตีนด้วยเอทานอลในสภาวะเย็นและทำแห้งด้วยวิธีทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง โดยศึกษาอัตราส่วนของกรดอินทรีย์กับโซเดียมโซเดียมไบคาร์บอเนตที่เหมาะสมในการก่อให้เกิดสภาวะฟองฟู่ ศึกษาปริมาณเอนไซม์บรอมิเลนผง ร้อยละปริมาณของสารก่อสภาวะฟองฟู่ในสูตรผลิตภัณฑ์ และทดสอบทางประสาทสัมผัสของผู้บริโภค ได้สูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนนความชอบโดดเด่น คือ กรดซิตริก 0.80 g กรดทาร์ทาริก 0.40 g โซเดียมไบคาร์บอเนต 0.90 g เอนไซม์บรอมิเลนผง 0.20 g พีวีพี 0.15 g สารลดการก่อโฟม 0.036 g ซูคลาโรส 0.007 g ไซลิทอล 0.800 g และสารให้กลิ่นสับปะรด 0.120 จากนั้นเตรียมเป็นผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการทำกรานูลแห้ง ได้ผลิตภัณฑ์กรานูลฟองฟู่ที่มีสมบัติการไหลของผงยาในระดับดี และยังคงค่ากิจกรรมเอนไซม์บรอมิเลนไว้ได้ที่ 87.9% สามารถละลายน้ำได้ดี โดยใช้เวลาในการเกิดสภาวะฟองฟู่ 94 วินาที
          การผลิตผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซินจากสารแคปไซซินที่สกัดได้จากพริกพันธุ์ซุปเปอร์ฮอต โดยสภาวะที่ใช้ในการสกัดสารแคปไซซิน คือ สกัดโดยใช้อัตราส่วนของเอทานอล : พริก เท่ากับ 1 : 5 (w/v) ได้สารสกัดหยาบแคปไซซินที่มีปริมาณสารแคปไซซิน 2,374.35 (µg/g) จากนั้นทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซินที่มีปริมาณสารสกัดแคปไซซิน 1.0, 1.5 และ 2.0 % พบว่าผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซินที่เติมสารสกัดแคปไซซิน 1.5% มีปริมาณสารแคปไซซินเหมาะสมที่สุด คือ 0.0123 (%โดยน้ำหนักของตัวอย่าง) ปริมาณฟีนอลิกรวม 2.83 (mg gallic acid/g) และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (SC50) เท่ากับ 10.11 (mg/ml) จากนั้นทำการทดสอบการระคายเคืองต่อผิวหนังของผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซินในอาสาสมัครจำนวน 15 คน พบว่าอาสาสมัครจำนวน 11 คน ไม่พบการระคายเคืองที่ผิวหนังบริเวณที่ทาผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซิน ขณะที่อาสาสมัครจำนวน 4 คน มีอาการแดงและบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทาผลิตภัณฑ์เจลนวดแคปไซซินแต่อาการจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง
          การผลิตสีผงจากดอกอัญชันด้วยวิธีการทำแห้งแบบโฟมแมท ทำการสกัดดอกอัญชันด้วยสารละลายกรดซิตริกความเข้มข้น 0.15 M อัตราส่วนดอกอัญชันแห้งต่อสารละลายกรดซิตริกเป็น 1:50 (w/v) สกัดที่อุณหภูมิ 60 °C ระยะเวลา 30 นาที นำสารสกัดที่ได้ระเหยน้ำออกเพื่อให้สารสกัดมีปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้เท่ากับ 8 °B ผสมมอลโตเด็กซ์ทริน 20% โดยน้ำหนัก จากนั้นเติมสารก่อโฟม methocel ปริมาณ 2.5% ตีให้เกิดโฟมเป็นเวลา 15 นาที ใส่ถุงบีบให้เป็นเส้นขนาดกว้าง 0.5 - 0.7 cm ยาว 34-36 cm ลงบนถาด นำไปทำแห้งด้วยตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 70 °C เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ได้สีผงเป็นสีชมพู มีความชื้น 4.50% ค่าวอเตอร์แอกทิวิตีเท่ากับ 0.239 ค่าสี L* a* และ b* เท่ากับ 42.11, 15.90 และ -1.45 ตามลำดับ ค่าการละลาย 86.92% ปริมาณแอนโทไซยานิน 19.37 mg cyanidin-3-glucoside/100g สีผงที่ได้นำไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ซอร์เบต ปริมาณที่เหมาะสม คือ 2.5% โดยน้ำหนักของส่วนผสมทั้งหมด เมื่อเก็บรักษาสีผงเป็นเวลา 4 เดือนในถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ พบว่าสีผงมีความชื้นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ไม่แตกต่างจากเริ่มต้น ในขณะที่ปริมาณสารแอนโทไซยานินมีค่าลดลง

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 25 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 26-12-2567

แจ้งไฟล์หาย