คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ขยายผลผลิตภัณฑ์ startup ingredient เชิงพาณิชย์

คำหลัก :

ผู้วิจัย : วิมลวรรณ วัฒนวิจิตร

ผู้ร่วมวิจัย : ปาริชาติ อยู่แพทย์, ศุภมาศ กลิ่นขจร, ศิวัช พลายเสน, อกนิษฐ์ พิศาลวัชรินทร์ และสุปรียา ศุขเกษม

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 68 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการวิจัยและพัฒนาขยายผลผลิตภัณฑ์ startup ingredient เชิงพาณิชย์ดำเนินการในปี 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ และเทคโนโลยีการผลิต Startup ingredients และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาศักยภาพของกลุ่มหรือธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมเกษตรได้ โดยมีการดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ดังนี้
          การผลิตเอนแคปซูเลทสารให้กลิ่นรสจากน้ำผลไม้เข้มข้นพรีไบโอติกส์สูง ได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับผู้เข้าอบรมซึ่งเป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการผลิตน้ำผลไม้ หรือผู้สนใจการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ณ ไร่สุขสมาน จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 20 คน และสามารถผลิตที่บริษัทปัจจัยชีวี จำกัด จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าผลิตภัณฑ์ไซรัปสับปะรดพรีไบโอติกส์สูง มีปริมาณของแข็งที่ละลายได้ 70.45 องศาบริกส์ เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนไซรัปจากพืช มีค่า pH 4.45 มีปริมาณน้ำตาลซูโครส กลูโครส และฟรุกโตส เป็นร้อยละ 12.53 7.26 และ 5.12 ตามลำดับ มีปริมาณฟรุกแตนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20.98 ปริมาณจุลินทรีย์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนไซรัปจากพืช และการทดสอบการยอมรับของผู้บริโภคทั่วไปให้การยอมรับผลิตผลิตภัณฑ์ในทุกคุณลักษณะในระดับ ชอบมาก และผลิตภัณฑ์ผงน้ำสับปะรดเข้มข้นพรีไบโอติกสูงที่มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองอ่อน มีปริมาณความชื้นต่ำ ปริมาณน้ำตาลซูโครส กลูโครสและฟรุกโตส เป็นร้อยละ 21.6 12.1 และ 8.55 ตามลำดับ และมีปริมาณฟรุกแตนทั้งหมดเป็นร้อยละ 32.77
          การผลิตสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่ากลูโคซิเดสโดสวิธีเอนแคปซูเลชั่นสู่เชิงพาณิชย์ ได้ดำเนินการจัดอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มวิสาหกิจการเกษตร ศรีสะเกษแฟร์เทรด จำนวน 40 คน ณ ไร่สุขสมาน ตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ผลการถ่ายทอดเทคโนโลยีพบว่า ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจทฤษฎีและขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อผลิตสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่ากลูโคซิเดสโดสวิธีเอนแคปซูเลชั่น และมีสถานที่ผลิตเอนแคปซูเลทสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่ากลูโคซิเดสเพื่อจำหน่ายในระดับเชิงพาณิชย์ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในระดับโรงงานมีความใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ โดยผลิตภัณฑ์แคปซูลเอนแคปซูเลทสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่ากลูโคซิเดสจากการสกัดหอมแดง 1 แคปซูลมีสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่ากลูซิเดส 500 มิลลิกรัมกรัม มีปริมาณเคอซิตินร้อยละ 31.85 ต่อน้ำหนักตัวอย่าง มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดสในหลอดทดลองได้เฉลี่ยร้อยละ 39.2 มีต้นทุนการผลิตเม็ดละ 0.375 บาท หากบรรจุ 100 เม็ดต่อขวด จะมีต้นทุนการผลิตขวดละ 37.5 บาท
          ผลิตภัณฑ์เนยมะม่วงเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ได้ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเนยมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้นและการประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นในผลิตภัณฑ์โลชันทาผิวกับบริษัท เบลเอ็นเอ็น ทริลเลียน จำกัด และร่วมทดลองผลิตในระดับขยายขนาดโดย บริษัท ไอเดียร์สแควร์ แลบบอลาทอรี จำกัด โดยพบว่า เนยมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้นมีความสามารถยับยั้งเอนไซม์ไฮยารูลอนิเดส กิจกรรมของเอนไซม์อีลาสเตสและเอนไซม์คอลลาจีเนสที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยและความเหี่ยวย่นได้ การประยุกต์ใช้เนยมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้นในผลิตโลชั่นทาผิวในปริมาณร้อยละ 1 - 3 จะได้ผลิตภัณฑ์โลชั่นที่ได้มีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.478-2555 “ผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว” และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองกับผิวหนัง โดยผลิตภัณฑ์โลชั่นที่ได้จากการขยายสเกลการผลิตจะมีค่าสี ค่าความเป็นกรด - ด่าง และแรงผลักของประจุระหว่างอนุภาคแตกต่างจากโลชั่นที่ผลิตในห้องปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าแรงผลักของประจุระหว่างอนุภาคสูงกว่าและมีความแน่นเนื้อ การเกาะตัว ความคงตัวและดัชนีความหนืดสูงกว่าโลชันที่ผลิตได้จากห้องปฏิบัติการ แต่ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสกับผู้บริโภคจำนวน 20 คน ด้วย 7-point hedonic scale ในด้านความพึงพอใจทั้งด้านสี ความเรียบเนียน ความหนืดของโลชัน การดูดซึมความชุ่มชื้นของผิวหลังทา ความรู้สึกหลังทา และการยอมรับโดยรวมของผลิตภัณฑ์โลชัน พบว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างโลชันที่ผลิตได้ในระดับขยายขนาดและโลชันที่ผลิตได้ในห้องปฏิบัติการ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 23 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 26-12-2567

แจ้งไฟล์หาย