คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการผลิตเปราะหอมและว่านนางคำในพื้นที่ภาคตะวันออก

คำหลัก : พืชสมุนไพร น้ำมันหอมระเหย เปราะหอม

ผู้วิจัย : จารุณี ติสวัสดิ์

ผู้ร่วมวิจัย : พินิจ กัลยาศิลปิน, พุทธธินันทร์ จารุวัฒน์, สุชาดา ศรีบุญเรือง, ขนิษฐา วงษ์นิกร, นงนุช ช่างสี, คุรุวรรณ์ ภามาตย์, อนุสรณ์ สุวรรณเวียง, ประวีณา ศรีแวงเขต และธัญมน สังข์ศิริ

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมจันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี และกองแผนงานและวิชาการ

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 82 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเปราะหอมและว่านนางคำในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วย การศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์และอายุการเก็บเกี่ยวต่อคุณภาพน้ำมันหอมระเหยของเปราะหอมและว่านนางคำ การทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเปราะหอมและว่านนางคำในพื้นที่เกษตรกร การวิจัยและพัฒนาการเทคโนโลยีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปราะหอมและว่านนางคำ ในระหว่างปีพ.ศ. 2560 - 2564 เพื่อหาอัตราปุ๋ยอินทรีย์ และอายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมสำหรับการกลั่นน้ำมันหอมระเหยของเปราะหอมและว่านนางคำที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคตะวันออก และศึกษาทดสอบหาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการอบแห้งเปราะหอมและว่านนางคำด้วยเครื่องอบแห้งลมร้อน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อบแห้งที่มีคุณภาพสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์การศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์และอายุการเก็บเกี่ยวต่อคุณภาพน้ำมันหอมระเหยของเปราะหอมพบว่า อัตราการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่ทำให้น้ำหนักผลผลิตเหง้าสด ผลผลิตแห้งต่อไร่ และเปอร์เซ็นต์น้ำมันหอม
ระเหยมีความแตกต่างกันทางสถิติอายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมสำหรับเปราะหอม คือ 9 เดือน หลังจากใบยุบแห้งทั้งหมด องค์ประกอบหลักทางเคมี คือ ethyl-p-methoxycinnamate (56.8%) และ ethylcinnamate (37.8%) เช่นเดียวกับว่านนางคำพบว่า อัตราการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่ทำให้ผลผลิตและเปอร์เซ็นต์น้ำมันหอมระเหยแตกต่างกันทางสถิติส่วนอายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมสำหรับการผลิตว่านนางคำ คือ 12 เดือน องค์ประกอบหลักทางเคมี คือ zanthorrhizol (46.1%) จากนั้น
ดำเนินการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเปราะหอมและว่านนางคำในพื้นที่เกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และจันทบุรี ผลการทดสอบพบว่า การปลูกเปราะหอมตามกรรมวิธีแนะนำ ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่รวม ร้อยละน้ำหนักแห้งเฉลี่ยรวม และน้ำมันหอมระเหยเฉลี่ยรวม สูงกว่าวิธีเกษตรกร ค่า BCR กรรมวิธีแนะนำ เท่ากับ 1.0 ใกล้เคียงกับกรรมวิธีเกษตรกรที่ BCR เท่ากับ 0.9 ส่วนการทดสอบการปลูกว่านนางคำ กรรมวิธีแนะนำ ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่รวม มากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ส่วนร้อยละน้ำหนักแห้งเฉลี่ยรวม และน้ำมันหอมระเหยเฉลี่ยรวมกรรมวิธีแนะนำ ใกล้เคียงกับวิธีเกษตรกร ค่า BCR กรรมวิธีแนะนำ เท่ากับ 2.3 น้อยกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ที่มีค่า BCR เท่ากับ 3.4 เนื่องจากกรรมวิธีแนะนำมีต้นทุนในการปรับปรุงดิน และการจัดการแปลงปลูกสูงกว่า การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเปราะหอมและว่านนางคำพบว่า การอบแห้งเปราะหอมที่อุณหภูมิ 60 ๐C มีความเหมาะสมที่สุด มีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการอบแห้ง 463.77 บ/กก. จุดคุ้มทุนการผลิต 735 กก./ปี ให้อัตราผลตอบแทนเงินทุน 14.35 เปอร์เซ็นต์/ปี และระยะเวลาคืนทุนเครื่องอบแห้งประมาณ 7 ปีเมื่อทำการผลิตเปราะหอมฝานอบแห้ง 180 วัน/ปีที่ ราคาขายผลิตภัณฑ์ 500 บ/กก. ผลการทดสอบว่านนางคำพบว่า การอบแห้งว่านนางคำที่อุณหภูมิ 70 ๐C มีความเหมาะสมที่สุด มีต้นทุนค่าใช้จ่าย 334.04 บ/กก. จุดคุ้มทุนการผลิต 823 กก./ปี ให้อัตราผลตอบแทนเงินทุน 21.51 เปอร์เซ็นต์/ปี และระยะเวลาคืนทุนเครื่องอบแห้งประมาณ 5 ปี เมื่อทำการผลิตว่านนางคำฝานอบแห้ง 180 วัน/ปี ที่ราคาขายผลิตภัณฑ์380 บ/กก.

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 32 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 02-01-2568

แจ้งไฟล์หาย