คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การตอบสนองของอ้อยต่อการจัดการธาตุอาหารในกลุ่มดินร่วน : ชุดดินกำแพงแสน/ชุดดินกำแพงเพชร

คำหลัก :

ผู้วิจัย : วาสนา วันดี

ผู้ร่วมวิจัย : ศุภกาญจน์ ล้วนมณี,บุญญาภา ศรีหาตา,เบญจมาศ คำสืบ,กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ,สุจิตรา พิกุลทอง,กนกวรรณ ฟักอ่อน

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมุกดาหาร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี

ปี: 2558

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 11 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ดำเนินการทดลองใน 2 ชุดดิน ได้แก่ ชุดดินกำแพงแสน ปี 2554 - 2556 และชุดดินจัตุรัส (แทนชุดดินกำแพงเพชร) ปี 2556 - 2558 ณ ไร่เกษตรกร จังหวัดสุพรรณบุรี วางแผนการทดลองแบบ Split-split plot มี 3 ซ้ำ ปัจจัยหลัก คือ การปรับปรุงดิน ประกอบด้วย 2 วิธีการ ได้แก่ 1) ไม่ปรับปรุงดิน 2) ปรับปรุงดินโดยใส่มูลไก่แกลบอัตรา 800 กก./ไร่ ปัจจัยรอง คือ อ้อย 2 พันธุ์ ได้แก่ 1) พันธุ์ขอนแก่น3 2) พันธุ์LK92-11 ปัจจัยย่อย คือ อัตราปุ๋ย 4 อัตรา ได้แก่ 1) ไม่ใส่ปุ๋ย 2) ปรับลดอัตราปุ๋ยไนโตรเจนเป็น 0.5 เท่าของคำแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดิน 3) ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนตามค่าวิเคราะห์ดิน และ 4) เพิ่มอัตราปุ๋ยไนโตรเจนเป็น 1.5 เท่าของคำแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมอย่างพอเพียง (ชุดดินกำแพงแสน : 0-3-6, 6-3-6, 12-3-6, 18-3-6 และชุดดินจัตุรัส : 0-9-6, 3-9-6, 6-9-6, 9-9-6) ผลการทดลองพบว่า ในชุดดินกำแพงแสน อ้อยปลูก การปรับปรุงดินและพันธุ์อ้อย มีความแตกต่างทางสถิติด้านผลผลิต โดยการปรับปรุงดินด้วยมูลไก่แกลบ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 18.02 ตันต่อไร่ มากกว่าการไม่ปรับปรุงดิน (17.10 ตันต่อไร่) อ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 19.03 ตันต่อไร่ มากกว่าอ้อยพันธุ์LK92-11 (16.19 ตันต่อไร่) การปลูกอ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 ในชุดดินกำแพงแสนที่มีการปรับปรุงดินด้วยมูลไก่แกลบ จะไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยเคมี แต่ถ้าไม่มีการปรับปรุงดินควรใส่ปุ๋ย 6-3-6 กก.N-P2O5-K2O ต่อไร่ จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน ส่วนการปลูกอ้อยพันธุ์LK92-11 ทั้งในสภาพที่มีการปรับปรุงดินด้วยมูลไก่แกลบและไม่ปรับปรุงดิน จะไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยเคมีสำหรับอ้อยตอ 1 ผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิต มีความแตกต่างกันทางสถิติด้านการใส่วัสดุปรับปรุงดินโดยการใส่วัสดุปรับปรุงดินให้ผลผลิต 15.27 ตันต่อไร่ มากกว่าไม่ใส่วัสดุปรับปรุงดิน (12.68 ตันต่อไร่) อ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 และพันธุ์LK92-11 ให้ผลผลิต ไม่แตกต่างกัน (13.42 และ 15.43 ตันต่อไร่) ในสภาพที่มีการปรับปรุงดิน อ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 การใส่ปุ๋ยเคมีจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ในสภาพที่ไม่มีการปรับปรุงดินการใส่ปุ๋ยอัตรา 12-3-6 จะคุ้มทุน ส่วนอ้อยพันธุ์LK92-11 ทั้งในสภาพที่มีการปรับปรุงดินและไม่ปรับปรุงดินการใส่ปุ๋ยเคมีจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน สำหรับผลการทดลองในชุดดินจัตุรัส พบว่า อ้อยปลูก ผลผลิต และองค์ประกอบผลผลิต มีความแตกต่างกันทางสถิติด้านการใส่วัสดุปรับปรุงดินและพันธุ์อ้อย โดยการใส่วัสดุปรับปรุงดินให้ผลผลิต 14.7 ตันต่อไร่ มากกว่าไม่ใส่วัสดุปรับปรุงดิน (12.9 ตันต่อไร่) อ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 ให้ผลผลิต 16.0 ตันต่อไร่มากกว่าพันธุ์LK92-11 (12.0 ตันต่อไร่) ด้านอัตราปุ๋ยไม่มีความแตกต่างกันทั้งการให้ผลผลิต จำนวนลำต่อไร่ ความสูง และเส้นผ่านศูนย์กลางลำ ในสภาพที่มีการปรับปรุงดินการปลูกอ้อยพันธุ์ขอนแก่น3 การใส่ปุ๋ยเคมีจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ในสภาพที่ไม่มีการปรับปรุงดิน การใส่ปุ๋ยอัตรา 6-9-6 จะให้อัตราผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (MRR) สูงสุด ส่วนอ้อยพันธุ์LK92-11 ทั้งในสภาพที่มีการปรับปรุงดินและไม่ปรับปรุงดิน การใส่ปุ๋ยเคมีจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 7 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 01-09-2568

แจ้งไฟล์หาย