คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

พืชเศรษฐกิจเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก

คำหลัก : สละ สำรอง มะม่วงหิมพานต์ ไผ่ ว่านสาวหลง เปราะหอม ว่านนางคำ กระชับ โรคผลเน่า สารควบคุมการเจริญเติบโต การตัดแต่ง การควบคุมทรงพุ่ม การชักนำให้ออกดอก

ผู้วิจัย : หฤทัย แก่นลา

ผู้ร่วมวิจัย : อรุณี แท่งทอง,กมลภัทร ศิริพงษ์,สุชาดา ศรีบุญเรือง,จารุณี ติสวัสดิ์,พินิจ กัลยาศิลปิน,พุทธธินันทร์ จารุวัฒน์

หน่วยงาน : สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมจันทบุรี

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: รายงานความก้าวหน้า

จำนวนผู้อ่าน: 103 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคตะวันออกในสละ สำรอง มะม่วงหิมพานต์ไผ่ ว่านสาวหลง เปราะหอม ว่านนางคำ และกระชับ ระหว่างปี 2559 - 2564 ผลการดำเนินงานมีดังนี้ 1) ทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสละในพื้นที่ภาคตะวันออก พบว่าได้เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดโรคเน่าและแมลงศัตรูสละที่เหมะสมในพื้นที่ และการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโต โดยฉีด NAA ความเข้มข้น 100 ppm อัตรา 3 มิลลิลิตรต่อช่อดอก พ่นติดต่อกัน 2 วัน พบการหลุดร่วงของผลหลังจากติดผล ส่วนการตัดแต่งช่อผลสละ (กระปุก) โดยตัดแต่งไว้กระปุกสละ จำนวน 8 กระปุกต่อคานดอก ทำให้มีการเข้าทำลายของโรคน้อยกว่าวิธีเกษตรกร 2) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสำรองในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก พบว่าสำรอง 4 สายต้น มีการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการด้านสัณฐานวิทยาลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่มีการติดผล และเมื่อทำการควบคุมทรงพุ่มสำรองในสภาพในแปลงปลูก พบว่าการตัดยอดช่วยชะลอความสูงของต้นสำรองให้ลดลงแต่เพิ่มพัฒนาการทางด้านกว้างของทรงพุ่ม และยังไม่พบวิธีการชักนำให้สำรองออกดอกได้ 3) ทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมะม่วงหิมพานต์ในพื้นที่ภาคตะวันออก พบว่าพันธุ์ที่มีความเหมาะสมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี คือ พันธุ์พื้นเมือง 2 และวิธีแนะนำใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 มีความเหมาะสมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและตราด และพบว่าการอบแห้งมะม่วงหิมพานต์ที่เหมาะสมอยู่ที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส 2 ชั่วโมง และ 75 องศาเซลเซียส 8 ชั่วโมง และการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากผลเทียมมะม่วงหิมพานต์ พบว่าได้ยีสต์ที่ผลิตแอลกอฮอล์สูงสุด คือ Saccharomyces cerevisiae Y21 (8.7± 0.4% v/v) และได้แบคทีเรียที่ผลิตกรดอะซิติกสูงสุด คือ Acetobacter tropicalis A12 (5.91 ± 0.17% v/v) และการใช้สูตรที่มีแอลกอฮอล์ตั้งต้น 5% ใช้เวลาหมัก 30 วัน เหมาะสมที่สุดในการผลิตน้ำส้มสายชูหมัก 4) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไผ่ตงศรีปราจีนในจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าที่ระยะปลูก 6x6 เมตร และใส่ปุ๋ยเคมี 15-15-15 ให้ค่าอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (BCR) สูงสุด 5) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตว่านสาวหลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าที่ระยะปลูก 60 x 60 เซนติเมตร อัตราการใส่ปุ๋ยที่ 1 ตันต่อไร่ เหมาะสมที่สุด 5) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไผ่เชิงการค้าในจังหวัดจันทบุรี พบว่าการไว้จำนวนลำต่อกอที่เหมาะสมไผ่กิมซุ่งที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตของหน่อไผ่ คือ 5/กอ ส่วนไผ่ตงศรีปราจีน การไว้จำนวนลำต่อกอที่เหมาะสมคือ 6 ลำ/กอ และพบว่าพันธุ์ไผ่ที่เหมาะสมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี คือ พันธุ์ไผ่กิมซุ่ง, ไผ่ซางหม่น “ฟ้าหม่น.”, ไผ่ปักกิ่งและพบว่าไผ่ตงศรีปราจีนและไผ่ซางหม่น “ฟ้าหม่น” มีความเหมาะสมที่สุดที่จะแนะนำให้ผลิตเป็นแท่งเชื้อเพลิงชีวมวลแบบอัดแท่ง 7) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเปราะหอมและว่านนางคำในพื้นที่ภาคตะวันออก เปราะหอม ผลการศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์ และอายุการเก็บเกี่ยวต่อคุณภาพน้ำมันหอมระเหย พบว่าการใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 1 ตันต่อไร่ในช่วงเตรียมแปลงปลูก และเก็บเกี่ยวผลผลิตเปราะหอมที่อายุ 9 เดือน มีแนวโน้มให้ผลผลิตเหง้าสดและผลผลิตแห้งสูงสุด และการอบแห้งเปราะหอมที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส มีความเหมาะสมที่สุด ส่วนว่านนางคำ การใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 1 ตันต่อไร่ ในช่วงเตรียมแปลงปลูก และเก็บเกี่ยวผลผลิตว่านนางคำที่อายุ 12 เดือน มีแนวโน้มให้ผลผลิตสูงสุดและการอบแห้งเปราะหอมที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส มีความเหมาะสมที่สุด 8) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตกระชับเชิงการค้า พบว่า การใช้สารละลายอิทีฟอน 0.25% (v/v) นาน 24 ชั่วโมง ให้ผลดีที่สุด การใช้วัสดุเพาะเมล็ดกระชับที่เป็นดินนาผสมขุยมะพร้าว อัตราส่วน 1:1 มีความงอกของต้นอ่อนกระชับมากที่สุด คือ ร้อยละ 95 และการใส่ปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 40 กิโลกรัม/ไร่ ให้ผลดีที่สุด ส่วนการวิจัยเครื่องปลูกกระชับสำหรับผลิตต้นอ่อน ต้นแบบประกอบด้วยชุดโรยดิน ชุดโรยเมล็ดและชุดโรยทราย ที่มีมอเตอร์ขนาด 1 แรงม้า เป็นต้นกำลัง มีความสามารถในการทำงาน 92 ถาดต่อชั่วโมง มากกว่าการใช้แรงงานคนปลูกประมาณ 13 เท่า มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 1.54 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และใช้แรงงานประจำเครื่อง 1 คน ผลการวิจัยเครื่องเกี่ยวนวดกระชับ ต้นแบบประกอบด้วยล้อโน้มซึ่งมีใบโน้มติดตั้งอยู่ ก้านรูดเมล็ดอยู่ด้านล่างทำจากเหล็กขนาด 12x12 มิลลิเมตร วางเป็นลักษณะคล้ายคราดมีระยะห่างของก้าน 10 มิลลิเมตร สกรูลำเลียงเมล็ดกระชับเข้าสู่กระพ้อและส่งต่อสู่ห้องนวดเมล็ด และสกรูลำเลียงจากห้องนวดสู่ทางออกเพื่อบรรจุเมล็ดกระชับที่ได้ลงสู่ถังปุ๋ย เครื่องต้นแบบมีความสามารถในการทำงาน 6 ไร่/วัน มีต้นทุนค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเกษตรกร ส่วนเครื่องปลูกกระชับในแปลงเมล็ดพันธุ์ ต้นแบบประกอบด้วยชุดหลัก 3 ส่วน คือ หัวหมูเปิดร่อง ส่วนหยอดเมล็ดกระชับและผานกลบหลุม ผลการทดสอบพบว่า การปลูกด้วยเครื่องต้นแบบจะมีเมล็ดกระชับเฉลี่ย 5 เมล็ดต่อหลุม ระยะห่างระหว่างหลุมเฉลี่ย 52 เซนติเมตร การงอกเฉลี่ย 55 เปอร์เซ็นต์ การใช้ต้นแบบปลูกจะใช้เวลาประมาณ 82 วินาที ส่วนการใช้แรงงานคนปลูกใช้เวลามากกว่าการใช้ต้นแบบ 2.9 เท่า

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 46 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 20-11-2567

แจ้งไฟล์หาย