คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ศึกษาวิธีการเก็บรักษาน้ำมันถั่วเหลืองที่มีผลต่อปริมาณและคุณภาพน้ำมัน

คำหลัก : น้ำมันถั่วเหลือง ค่า Peroxide Value (PV) ค่า Acid Value (AV) และค่า Iodine Value (IV)

ผู้วิจัย : จารุวรรณ บางแวก

ผู้ร่วมวิจัย : อรวรรณ จิตต์ธรรม,ภัควิไล ยอดทอง

หน่วยงาน : สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2555

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 202 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

ถั่วเหลืองเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้น้ำมันที่มีคุณภาพต่อสุขภาพ เพราะเป็นน้ำมันจากพืชที่มีพันธะคู่ แต่เมื่อเก็บรักษาไว้เป็นเวลานานจะเกิดกลิ่นหืนได้ง่าย เนื่องจากเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับก๊าซออกซิเจนในอากาศ การทดลองนี้จึงทำการศึกษาหาสภาพ และระยะเวลาในการเก็บรักษาที่เหมาะสม เพื่อคงสภาพน้ำมันให้นานที่สุด โดยทำการศึกษาที่สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร วางแผนการทดลองแบบ Split plot in RCB จำนวน 4 ซ้ำ โดยนำเมล็ดถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 2 สกัดน้ำมันบรรจุในขวดเก็บรักษาที่ 10 25 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 12 เดือน ทุกเดือนนำน้ำมันมาวิเคราะห์หาคุณภาพน้ำมัน พบว่าค่าความเป็นกรด (Acid Value : AV) ซึ่งเกิดจากน้ำมันเกิดปฏิกิริยาได้ กรดไขมันอิสระ (free fatty acid) และ ค่า Iodine value (IV) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ ว่าน้ำมันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนประกอบอยู่มากน้อยเพียงใด ในทุกสภาพจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ค่า Peroxide value (PV) ที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ได้สารที่มีกลิ่นหืน จะเกิดมากและเร็ว เมื่อเก็บในสภาพที่มีอุณหภูมิสูง คือที่ 25 องศาเซลเซียส และ อุณหภูมิห้อง เมื่อเก็บไว้นานกว่า 4 เดือน ส่วนน้ำมันที่เก็บในที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ค่า PV จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ถึงแม้จะเก็บไว้นาน 1 ปี แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ดีของน้ำมันถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 2 ที่มีการเกิด free fatty acid ต่ำ แต่กลิ่นหืนจะเกิดเมื่อเก็บไว้นานกว่า 4 เดือน แต่ถ้าจะรักษาคุณภาพควรเก็บไว้ในสภาพอุณหภูมิต่ำ 10 องศาเซลเซียส

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 53 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 28-11-2567

แจ้งไฟล์หาย