คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การใช้ประโยชน์ถั่วเหลือง

คำหลัก : การผลิตถั่วเหลือง ครบวงจร ถั่วเหลืองฝักสด พันธุ์เชียงใหม่ 84-2 ระดับชุมชน

ผู้วิจัย : สุพรรณณี เป็งคำ

ผู้ร่วมวิจัย : รัชนี โสภา, อ้อยทิน ผลพานิช, ปัทมพร วาสนาเจริญ, วรกานต์ ยอดชมภู, โสพิศ ใจปาละ, จงรักษ์ พันธ์ไชยศรี, เกียรติรวี พันธ์ไชยศรี และนฤนาท ชัยรังษี

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 91 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์ถั่วเหลือง ปี 2564 ประกอบด้วย 2 กิจกรรม 6 การทดลอง โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิจัยและพัฒนาระบบการผลิตถั่วเหลืองแบบครบวงจร พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลืองฝักสด (พันธุ์เชียงใหม่84-2) พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และ 3) เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองชนิดใหม่ตามที่ตลาดต้องการ ซึ่งดำเนินการวิจัยโดยการการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการผลิตเมล็ดพันธุ์และการผลิตถั่วเหลือง ถั่วเหลืองฝักสดในระดับชุมชน พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง พบว่า การถ่ายทอดความรู้ โดยผ่านการจัดทำแปลงต้นแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์และผลิตถั่วเหลืองอย่างมีส่วนร่วม ในพื้นที่ของเกษตรเกษตรกร อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สามารถขยายผลการปลูกถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 60 ให้ผลผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพในชั้นพันธุ์จำหน่าย นอกจากนี้สามารถสร้างและพัฒนากลุ่มเกษตรกรเครือข่ายผู้ผลิตถั่วเหลืองในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 กลุ่ม ได้ผลิตถั่วเหลืองคุณภาพดี มีการกระจายผลผลิตถั่วเหลืองภายในกลุ่ม กลุ่มแปรรูป และเชื่อมโยงแหล่งจำหน่ายผลผลิตในพื้นที่ใกล้เคียงได้จำนวน 9.70 ตัน ช่วยสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในพื้นที่ ประมาณ 197,250 บาท ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลืองฝักสดพันธุ์เชียงใหม่ 84-2 ระดับชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ได้ข้อแนะนำในการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ได้แก่ พื้นที่ปลูกแต่ละรอบไม่ควรเกิน 200 ตารางเมตร ปลูกห่างกันรอบละ 7 - 10 วัน เพื่อให้เกษตรกรสามารถจัดการดูแลแปลงปลูกได้ทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลผลิตจำหน่ายได้ต่อเนื่อง ในฤดูแล้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปลูกถั่วเหลืองฝักสดเพื่อให้ได้ผลผลิตและผลตอบแทนสูงที่สุด ได้แก่ ช่วงกลางเดือนธันวาคม-กลางเดือน ในฤดูฝน ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปลูกถั่วเหลืองฝักสดเพื่อให้ได้ผลผลิตและผลตอบแทนสูงที่สุด ได้แก่ ช่วงเดือนมิถุนายน ส่วนพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง พบว่า เต้าเจี้ยวถั่วเหลืองงอกที่ทำจากถั่วเหลืองพันธุ์ตาแดงมีปริมาณสารกาบ้าในเมล็ดสูงสุด เท่ากับ 1,713 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักเปียก 100 กรัม มีปริมาณโปรตีน เท่ากับ 5.12 กรัม เมื่อทำการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องปกติ เป็นระยะเวลา 3 เดือน เต้าเจี้ยวจากถั่วเหลืองพันธุ์ศรีสำโรง 1 และพันธุ์เชียงใหม่ 60 มีการสลายตัวของสารกาบ้า อยู่ในระดับต่ำที่สุด ร้อยละ 5.97 - 8.86 และโปรตีน ร้อยละ 3.8 - 6.2 ส่วนการประเมินคุณภาพลักษณะทางประสาทสัมผัสของเต้าเจี้ยวถั่วเหลืองงอก พบว่า พันธุ์เชียงใหม่ 60 ได้รับความชอบรวมมากที่สุด ศึกษาการใช้น้ำนมถั่วเหลืองร่วมกับไข่ไก่ในการผลิตเต้าหู้แข็งกึ่งอ่อน พบว่า อัตราส่วนระหว่างน้ำนมถั่วเหลืองกับไข่ไก่ 90 : 10 ให้ผลผลิตเต้าหู้แข็งกึ่งอ่อนเหมาะสมที่สุด เท่ากับ 3,140 กรัม มีปริมาณโปรตีน เท่ากับ 12.21 กรัม นอกจากนี้ได้รับคะแนนความชอบในทุกคุณลักษณะแตกต่างกัน (P ≤ 0.05) และสูงกว่าเต้าหู้แข็งกึ่งอ่อนที่ผลิตจากกรรมวิธีอื่นๆ โดยได้รับคะแนนความชอบรวมอยู่ในระดับชอบมาก และมีต้นทุนการผลิต 118.98 บาท ส่วนการเพิ่มขั้นตอนการนึ่งฆ่าเชื้อเต้าหู้แข็งกึ่งอ่อน ที่อุณหภูมิ 80 - 90 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที สามารถลดปริมาณการปนเปื้อนของเชื้อซาลโมเนลลา และยืดอายุการเก็บรักษาของเต้าหู้แข็งกึ่งอ่อนให้นาน 3 วัน พันธุ์ถั่วเหลืองที่เหมาะสมและมีคุณภาพต่อการผลิตน้ำสลัดครีมเต้าหู้ คือ พันธุ์เชียงใหม่ 2 ซึ่งมีปริมาณโปรตีนที่สูง ทั้งก่อน - หลังการเก็บรักษาที่อายุ 3 วัน ในสภาพอุณหภูมิห้องและอุณหภูมิต่ำ โดยไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อเชื้อสตาฟิโลค็อกคัส ออเรียส ทั้งก่อนและหลังการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์เนื่องจากมีการนึ่งฆ่าเชื้อเต้าหู้แข็งก่อนน้ำไปทำน้ำสลัด โดยได้รับผลการประเมินคุณภาพด้านประสาทสัมผัสในระดับชอบมาก สามารถผลิตเต้าหู้และน้ำสลัดครีมเต้าหู้ เท่ากับ 1,450 และ 2,459.68 กรัม ต้นทุนการผลิตน้ำสลัด 132.40 บาท

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 28 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-12-2567

แจ้งไฟล์หาย