คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การปรับปรุงพันธุ์งาดำเพื่อผลผลิตสูง : การผสมพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์

คำหลัก : งาดำ

ผู้วิจัย : สายสุนีย์ รังสิปิยกุล

ผู้ร่วมวิจัย : สมใจ โควสุรัตน์,ธำรง เชื้อกิตติศักดิ์,จุไรรัตน์ กันภัย,วงเดือน ประสมทอง,ลักขณา ร่มเย็น,สมหมาย วังทอง,สมพงษ์ ชมภูนุกูลรัตน์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี

ปี: 2555

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 120 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

เพื่อปรับปรุงพันธุ์งาดำที่ให้ผลผลิตสูง ได้นำสายพันธุ์งาที่ให้ผลผลิตสูงจากแปลงรวบรวมและศึกษาพันธุ์จำนวน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ MKS-I-81211 MKS-I-83042-1 No.17 และ MKS-I-84001 ผสมข้ามพันธุ์กับพันธุ์รับรอง คือ อุบลราชธานี 3 มข. 2 มก. 18 และงาดำพื้นเมืองนครสวรรค์ ดำเนินการทดลองที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ในฤดูแล้ง ปี 2554 (มกราคม 2554) ปลูกงาพันธุ์พ่อแม่ รวม 8 พันธุ์/สายพันธุ์ ทำการผสมพันธุ์แบบพบกันหมด ได้ลูกผสมทั้งหมดจำนวน 55 คู่ผสม ปลูกลูกผสมชั่วที่ 1 ในต้นฤดูฝน (พฤษภาคม 2554) และปลูกลูกผสมชั่วที่ 2 ในปลายฤดูฝน (กันยายน 2554) เก็บเมล็ดและปลูกลูกผสมชั่วที่ 3 ในต้นฤดูฝนปี2555 เก็บเมล็ดแบบ single seed descent (SSD) และปลูกลูกผสมชั่วที่ 4 ในปลายฤดูฝนปี 2555 จากลูกผสมชั่วที่ 4 ที่นำมาปลูกจำนวน 55 สายพันธุ์ พบว่า มีงาจำนวน 4 สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตมากกว่า 110 กิโลกรัมขึ้นไป ได้แก่ สายพันธุ์ BS54-11 (MKS-I-83042-1 x MKS-I-81211 : 126.2 กก./ไร่) BS54-42 (No.17 x นครสวรรค์ : 123.4 กก./ไร่) BS54-40 (No.17 x MKS-I-81211 : 118.6 กก./ไร่) และ BS54-6 (มก.18 x มข.2 : 113.8 กก./ไร่) โดยมีพันธุ์พ่อ-แม่ที่ปลูกเปรียบเทียบให้ผลผลิต ดังนี้ No.17 (123.4 กก./ไร่) อุบลราชธานี 3 (113.5 กก./ไร่) นครสวรรค์ (109.8 กก./ไร่) MKS-I-81211 (107.1 กก./ไร่) มก.18 (107 กก./ไร่) MKS-I-83042-1 (83.3 กก./ไร่) มข.2 (71.7 กก./ไร่) และ MKS-I-84001 (51.0 กก./ไร่) จะได้นำเมล็ดจากชั่วที่ 4 เพื่อปลูกชั่วที่ 5 ในฤดูแล้งปี 2556 และคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อนำเข้าเปรียบเทียบเบื้องต้นในต้นฤดูฝน ปี 2556

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 32 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 13-12-2567

แจ้งไฟล์หาย