คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การศึกษากรรมวิธีการผลิตงางอก

คำหลัก : งางอก การผลิตงางอก งาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1 งาขาวพันธุ์อุบลราชธานี 2 งาดำพันธุ์อุบลราชธานี 3

ผู้วิจัย : ศิริรัตน์ กริชจนรัช

ผู้ร่วมวิจัย : สายสุนีย์ รังสิปิยกุล,นฤทัย วรสถิตย์,กัลยารัตน์ หมื่นวณิชกูล,สมพงษ์ ชมภูนุกูลรัตน

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3

ปี: 2554

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 68 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

การผลิตงางอก คือ กรรมวิธีเพาะเมล็ดงาให้ได้เป็นต้นกล้า เพื่อนำไปบริโภคโดยตรง ใช้ในการประกอบอาหาร หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ แต่กรรมวิธีในการผลิตหรือวิธีการเพาะเมล็ดมีผลต่อคุณภาพและปริมาณของงางอกที่ได้ จึงได้ศึกษากรรมวิธีการผลิตงางอกเพื่อให้เหมาะสม สะดวก และง่ายต่อการปฏิบัติ ตลอดจนได้ผลผลิตงางอกที่ดีและมีคุณภาพ วางแผนการทดลอง แบบ CRD มี 4 ซ้ำ กรรมวิธี คือ วัสดุที่ใช้ในการเพาะเมล็ด มี 5 กรรมวิธี ได้แก่ 1. ทราย 2. แกลบเผา 3. แผ่นฟองน้ำ 4. ผ้าด้ายดิบ 5. ผ้าด้ายดิบและมีสอบป่านซ้อนด้านล่างอีกชั้น ในการทดลองได้ใช้เมล็ดงาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1 ที่มีความงอกของเมล็ดร้อยละ 90 จำนวน 2.5 กรัมต่อวัตถุทดลอง (กล่องพลาสติก) ขนาด 12x16 นิ้ว ผลการทดลอง พบว่า การเพาะโดยใช้ฟองน้ำไม่เหมาะสมในการผลิตงางอก เพราะทำให้เมล็ดงาเน่าได้ง่าย ส่วนการเพาะเมล็ดด้วยทรายและแกลบเผาเป็นวัสดุเพาะ (ระยะเวลาการเพาะ 4-5 วัน) งางอกมีความยาว 12.6-13.8 เชนติเมตร และได้ ผลผลิตน้ำหนักสด 51.9-58.6 กรัม ขณะที่ผ้าด้ายดิบ และผ้าด้ายดิบแต่มีกระสอบป่านช้อนด้านล่างอีกชั้น (ระยะเวลาการเพาะ 1-3 วันหากนานกว่านี้จะเน่า) งางอกมีความยาว 4.7-5.3 เซนติเมตร และได้ผลผลิตน้ำหนักสุด 24.0-25.4 กรัม เมื่อนำงางอกไปวิเคราะห์หาธาตุอาหาร พบว่า การใช้วัสดุเพาะต่างกันไม่พบความแตกต่างทางสถิติในเรื่องของปริมาณโปรตีน (ร้อยละ 20.32-22.34) ฟอสฟอรัส (ร้อยละ 1.65-1.88) และแมกนีเซียม (ร้อยละ 0.43-0.44) แต่พบความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนของปริมาณโพแทสเซียม และแคลเขียม คือ การเพาะโดยใช้แกลบเผาพบปริมาณโพแทสเซียมสูงที่สุด (ร้อยละ1.50) รองลงมา คือ การเพาะโดยใช้ทราย (ร้อยละ 1.00) ส่วนการเพาะโดยใช้ผ้าด้ายดิบ และผ้าด้ายดิบแต่มีกระสอบป่านซ้อนด้านล่างอีกชั้น พบบริมาณโพแทสเซียมน้อยที่สุด (ร้อยละ 0.58-0.60) แต่กลับพบปริมาณแคลเซียมสูงที่สุด คือ ร้อยละ 1.94-2.02 ขณะที่การเพาะโดยใช้ทรายและแกลบเผา พบปริมาณแคลเซียมเพียงร้อยละ 0.65-0.73 เท่านั้นเมื่อทดลองผลิตงางอกโดยใช้เมล็ดงาขาวพันธุ์อุบลราชธานี 2 และงาดำพันธุ์อุบลราชธานี 3 ตามกรรมวิธีการเพาะทั้ง 4 วิธี พบว่า ผลการทดลองเป็นไปในทำนองเดียวกับการทดลองในงาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 20 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 13-12-2567

แจ้งไฟล์หาย