คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ศึกษาการปลูกงาด้วยเครื่องปลูกในสภาพนา

คำหลัก : สภาพนา งา เครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์

ผู้วิจัย : ศิริรัตน์ กริชจนรัช

ผู้ร่วมวิจัย : สายสุนีย์ รังสิปิยกุล,นฤทัย วรสถิตย์,กัลยารัตน์ หมื่นวณิชกูล,บุญเหลือ ศรีมุงคุณ,สมพงษ์ ชมภูนุกูลรัตน์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี

ปี: 2555

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 90 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

การปลูกงาเป็นพืชเสริมในนาหลังการเก็บเกี่ยวข้าว เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่ปลูกงา แต่การปลูกงาในสภาพนายังขาดข้อมูลทางวิชาการหลายอย่าง รวมถึงวิธีการปลูกที่เหมาะสม ดังนั้น จึงศึกษาการปลูกงาด้วยเครื่องปลูกในสภาพนาเพื่อประหยัดเวลาและแรงงานในการปลูก โดยวางแผนการทดลอง แบบ RCB มี 4 ซ้้า 4 กรรมวิธีได้แก่ 1. การใช้เครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์2. การใช้เครื่องปลูกแบบใช้คนลาก 3. การหว่าน 4. การปลูกเป็นแถวโดยใช้คนหยอดเมล็ด (ระยะห่างระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ระหว่างต้น 10 เซนติเมตร) ผลการทดลองเบื้องต้นโดยทดลองปลูกงาในสภาพไร่ (พฤษภาคม 2554) เพื่อหาระยะการลากเครื่องปลูกและอัตราการวิ่งของรถแทรกเตอร์ตลอดจนแรงงานที่ใช้ในการปลูก พบว่า การปลูกโดยใช้เครื่องพ่วงท้ายแทรกเตอร์ใช้เมล็ดปลูกน้อยที่สุด (0.74 กก./ไร่) ขณะที่การใช้เครื่องแบบใช้คนลาก ใช้เมล็ดมากที่สุด (1.64 กก./ไร่) แรงงานที่ใช้ในการปลูกงาจ้านวน 1 ไร่ (mandays) พบว่า การใช้เครื่องปลูกพ่วงท้ายแทรกเตอร์ ช่วยประหยัดแรงงานมากที่สุด (0.07 แรง) รองลงมาคือการหว่าน (0.29 แรง) และการใช้เครื่องปลูกแบบลาก (0.61 แรง) ขณะที่การหยอดเมล็ดใช้แรงงานมากที่สุด (3.64 แรง) การทดลองปี 2555 พบว่า การปลูกงาในสภาพนาทุกกรรมวิธี มีความงอกในแปลงไม่แตกต่างกัน (ร้อยละ 60-70) แต่การปลูกแบบหว่านจะมีจ้านวนต้นเก็บเกี่ยวสูงที่สุด รองลงมา คือ การปลูกแบบเป็นแถวโดยใช้คนลากเครื่องปลูก ขณะที่แปลงที่ปลูกด้วยเครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์ มีจ้านวนต้นเก็บเกี่ยวน้อยที่สุด และไม่แตกต่างจากการปลูกเป็นแถวโดยใช้คนหยอดเมล็ด แต่ผลผลิตที่ได้กลับตรงข้ามกับจ้านวนต้นเก็บเกี่ยว คือ การปลูกโดยใช้คนหยอดหลุม ได้ผลผลิตสูงที่สุด (66 กก./ไร่) รองลงมา คือ การปลูกโดยเครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์ (59 กก./ไร่) ส่วนการปลูกแบบหว่านและเป็นแถวด้วยเครื่องปลูกโดยใช้คนลาก แม้จะมีจ้านวนต้นเก็บเกี่ยวสูงแต่ผลผลิตที่ได้น้อยที่สุด (33-38 กก./ไร่) ซึ่งสอดคล้องกับองค์ประกอบผลผลิต ได้แก่ น้้าหนัก 1,000 เมล็ด และจ้านวนฝักต่อต้น ของการปลูกแบบหว่านและการปลูกด้วยเครื่องปลูก โดยใช้คนลากไม่สูงเท่ากับการปลูกเป็นแถวโดยใช้คนหยอดเมล็ด และการปลูกโดยเครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์ นอกจากนี้ การปลูกโดยเครื่องปลูกแบบพ่วงท้ายแทรกเตอร์ช่วยให้ประหยัดแรงงานและเวลาในการปลูกมากกว่าวิธีอื่น

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 29 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 23-12-2567

แจ้งไฟล์หาย