คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและการรักษาคุณภาพของพริกชี้ฟ้า กะหล่ำปลี คะน้า มันฝรั่ง มะเขือเทศ

คำหลัก : โรคแอนแทรคโนส พริก คอลเลตโตตริกัม กรดซาลิไซลิก กะหล่ำปลี ไคโตซาน สารชีวภัณฑ์

ผู้วิจัย : อนุวัฒน์ รัตนชัย

ผู้ร่วมวิจัย : วิศรุต สันม่าแอ,ทวีศักดิ์ แสงอุดม,ทิวา บุบผาประเสริฐ,มนัสภร ฉิ่งวังตะกอ,อรทัย วงค์เมธา,อนุภพ เผือกผ่อง,ธารทิพย์ ภาสบุตร,เพราพิลาส ขาวสระแก้ว,ผดุงรัตน์ ธูปเมือง,ริสา รัตนชัย,รศ.ดร. วาริช ศรีละออง,ผศ.ดร.ณัฐชัย พงษ์ประเสริฐ,ผศ.ดร. สมศักดิ์ ครามโชติ,ภาณุมาศ โคตรพงศ์,งามพิศ สุดเสน่ห์,ทิวาพร ผดุง

หน่วยงาน : สถาบันวิจัยพืชสวน ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 135 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการการลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและการรักษาคุณภาพของพริกชี้ฟ้า กะหล่ำปลีคะน้า มันฝรั่ง มะเขือเทศ เพื่อได้วิธีการใช้กรดซาลิไซลิกในการป้องกันโรคแอนแทรคโนสของพริกชี้ฟ้าที่เกิดจากเชื้อ Colletotrichum sp. ลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในการผลิตกะหล่ำปลีโดยใช้วิธีแบบผสมผสานในโรงเรือนและสภาพแปลง ได้วิธีการใช้เทคโนโลยีฟองอากาศขนาดไมโครและนาโนร่วมกับโซเดียมไบคาร์บอเนตในการล้างทำความสะอาดเพื่อลดสารตกค้างใน กะหล่ำปลี คะน้า และพริกชี้ฟ้า ได้วิธีการเก็บรักษาด้วยเทคนิคซุปเปอร์คูลิงค์ต่อคุณภาพของ กะหล่ำปลี พริกชี้ฟ้า มันฝรั่ง เพื่อรักษาคุณภาพและลดการเกิดโรคของมะเขือเทศเชอรี่ การใช้กรดซาลิไซลิกในการป้องกันโรคแอนแทรคโนสของพริกชี้ฟ้า วางแผนการทดลองแบบ RCBD 7 กรรมวิธี คือ พ่นคาร์เบนดาซิม 50% WP ที่ความเข้มข้น 1,000 ppm พ่นสารละลายกรดซาลิไซลิก ที่ความเข้มข้น 100 250 500 700 1,000 ppm และพ่นน้ำเปล่า พบว่า ความเข้มข้น 250 ppm การใช้สารไคโตซานและการใช้สารชีวภัณฑ์ป้องกันและกำจัดหนอนและแมลงศัตรูพืช วางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 4 ซ้ำ 5 กรรมวิธีพ่นไคโตซาน 100 200 500 ppmพ่นสารเคมี ตามวิธีเกษตรกร และพ่นด้วยน้ำเปล่า พบว่ากรรมวิธีพ่นไคโตซาน 200 ppmต่อน้ำ 20 ลิตร + การใช้สารชีวภัณฑ์ BT + กาวดักแมลง ให้ผลการทดลองดีที่สุด มีขนาดหัวในโรงเรือน 16.38 เซนติเมตร ในสภาพแปลงมีขนาด 17.15 เซนติเมตร น้ำหนักต่อหัวในโรงเรือน 0.83 กิโลกรัม และในสภาพแปลง 0.87 กิโลกรัม และนำเทคโนโลยีทดสอบแปลงเกษตรกร จำนวน 10 แปลง พบว่าใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดหนอนและแมลงศัตรูกะหล่ำปลี และลดต้นทุนการผลิตได้ เทคโนโลยีฟองอากาศขนาดไมโครและนาโนนำมาใช้ในการทำความสะอาดพืชผัก นำผักมาล้างทำความสะอาดใช้เทคโนโลยีฟองอากาศขนาดไมโครและนาโนร่วมกับโซเดียมไบคาร์บอเนตที่ความเข้มข้น 100 500 1000 และ 1500 ppm ตามลำดับ เปรียบเทียบกับ ไม่ได้ล้าง พบว่าที่ความเข้มข้น 100 ppm มีแนวโน้มในการลดปริมาณสารตกค้าง เมวินฟอสไดอะซีนอน อีไทออน และโปรฟีโนฟอส ในคะน้าและพริกชี้ฟ้าได้ดีกว่ากรรมวิธีอื่นๆ Supercooling คือ กระบวนการทำให้ของเหลวเย็นตัวลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง โดยไม่ทำให้ของเหลวกลายเป็นของแข็ง บันทึกผลและเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลง พบว่ากะหล่ำปลีเหี่ยว สูญเสียน้ำหนัก เกิดอาการสีน้ำตาลบริเวณปลายใบและเส้นใบพริกชี้ฟ้า เก็บรักษาในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 5+2 องศาเซลเซียส เบื้องต้นพบว่าพริกชี้ฟ้ามีอาการเหี่ยวโดยเฉพาะที่ขั้วผล มีการเปลี่ยนแปลงสีจากสีแดงอ่อนเป็นสีแดงใน 7 วันแรกของการเก็บรักษา หลังจากนั้นสีผลมีสีแดงเข้มและเริ่มเหี่ยว บางผลพบการเกิดโรค มันฝรั่ง เก็บรักษาเบื้องต้นที่อุณหภูมิ 4+2 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 2 เดือน พบการงอกของหัวพันธุ์มันฝรั่งเกิดขึ้น การทดลองซุปเปอร์คูลิงค์ (super-cooling) ไม่สามารถดำเนินการทดลองต่อได้ เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือนำเข้าจากต่างประเทศ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 การพ่นแคลเซียมโบรอนให้มะเขือเทส มี 3 กรรมวิธี ได้แก่ กรรมวิธีที่ 1 กรรมวิธีไม่พ่นแคลเซียมโบรอน (ควบคุม) กรรมวิธีที่ 2 แคลเซียมโบรอนความเข้มข้น 0.25% และกรรมวิธีที่ 3 แคลเซียมโบรอนความเข้มข้น 0.5% จำนวน 3 ครั้ง ในระยะ 30 40 50 วันหลังดอกบาน เก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะผลสุกแก่เต็มที่ เก็บรักษาที่อุณหภูมิ10 องศาเซลเซียส นาน 21 วัน พบว่ามะเขือเทศที่ได้รับการแคลเซียมโบรอน ความเข้มข้น 0.25% ให้น้ำหนักผลต่อต้น ขนาดผล ค่าสีแดงผล ค่าความแน่นเนื้อผล ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ ปริมาณไลโคปีน และปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด เมื่อนำมะเขือเทศไปเก็บรักษาเป็นเวลา 21 วัน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 36 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 25-12-2567

แจ้งไฟล์หาย