คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การลดความสูญเสียคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักและผลไม้สด

คำหลัก : ถ่านซังข้าวโพด คุณภาพ สารดูดซับเอทิลีน บรรจุภัณฑ์ กล้วยหอม

ผู้วิจัย : คมจันทร์ สรงจันทร์

ผู้ร่วมวิจัย : ภาณุมาศ โคตรพงษ์, ศิรกานต์ ศรีธัญรัตน์, ปรางค์ทอง กวานห้อง, งามพิศ สุดเสน่ห์, ทิวาพร ผดุง และเสาวลักษณ์ กิตติธนวัตร

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร และสถาบันวิจัยพืชสวน

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 53 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ผักและผลไม้มีการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวค่อนข้างสูง เนื่องจากยังคงมีชีวิต และมีน้ำเป็นองค์ประกอบสูง การรักษาคุณภาพผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพใกล้เคียงกับวันเก็บเกี่ยวโครงการวิจัยการลดความสูญเสียคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักละผลไม้สด มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาคุณภาพและยืดอายุในการเก็บรักษาผลิตผล โดยใช้สารดูดซับเอทิลีน สภาพบรรยากาศดัดแปลง แคลเซียม และบรรจุภัณฑ์ โดยศึกษาผลของสารดูดซับเอทิลีนในบรรจุภัณฑ์ต่ออายุการเก็บรักษากล้วยหอม ทั้งแบบผลเดี่ยวและผลกลุ่ม พบว่าการใช้สารดูดซับเอทิลีนทางการค้า และสารดูดซับเอทิลีนจากถ่านซังข้าวโพด 1 หรือ 2 ซอง สามารถยืดอายุการวางจำหน่ายกล้วยหอมแบบผลเดี่ยวและแบบผลกลุ่มได้ดีที่สุด การยืดอายุการเก็บรักษามังคุดในระหว่างการขนส่งจากพื้นที่ปลูกจังหวัดจันทบุรีและชุมพร พบว่า มังคุดของทั้งสองพื้นที่ปลูกในบรรจุภัณฑ์ดัดแปลงสภาพบรรยากาศ + สารดูดซับเอทิลีน มีความยอมรับของผู้บริโภคสูงสุดและสามารถเก็บรักษาได้นาน 28 วัน การใช้แคลเซียมเพื่อรักษาคุณภาพมะม่วงหลังการเก็บเกี่ยว โดยฉีดพ่นปุ๋ยแคลเซียมโบรอนทางใบแก่มะม่วง พบว่า มะม่วงได้รับแคลเซียมโบรอนสามารถชะลอการสูญเสียน้ำหนัก การลดลงของค่าความแน่นเนื้อผล และการเกิดโรคหลังการเก็บเกี่ยว ได้ดีกว่ามะม่วงที่ไม่ได้รับแคลเซียมโบรอน ศึกษารูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการรักษาคุณภาพผักสลัด mix (ผักสลัดบัตเตอร์เฮดและคอส) และข้าวโพดฝักอ่อน พบว่าการเก็บรักษาผักสลัด mix ทั้งแบบบรรจุในถุงฟิล์มเจาะรูขนาดไมครอน หรือใส่ถาดพลาสติกแล้วหุ้มด้วยถุงฟิล์มเจาะรูขนาดไมครอน OTR 5,000 - 10,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วัน สามารถเก็บรักษาได้นาน 18 วัน และการเก็บรักษาข้าวโพดฝักอ่อนโดยใส่ถาดพลาสติกแล้วหุ้มด้วยถุงฟิล์มเจาะรูขนาดไมครอน OTR 5,000 - 10,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วัน สามารถเก็บรักษาได้นาน 20 วัน โดยช่วยรักษาความสด และชะลอการเกิดสีน้ำตาลได้ดีกว่าการการบรรจุถุงฟิล์มเจาะรูขนาดไมครอนเพียงอย่างเดียว การศึกษารูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการรักษาคุณภาพเงาะและมังคุด พบว่าเงาะบรรจุถุงฟิล์ม LDPE เจาะรูขนาดไมครอน หรือบรรจุถาดพลาสติกแล้วหุ้มด้วยถุงฟิล์ม LDPE เจาะรูขนาดไมครอน OTR 5,000 - 10,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วัน สามารถเก็บรักษาได้นาน 14 วัน และมังคุดบรรจุถาดแล้วหุ้มด้วยฟิล์ม PVC หรือบรรจุถุงฟิล์ม OPP หรือ LDPE เจาะรูขนาดไมครอน OTR 15,000 – 20,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วั) สามารถเก็บรักษานาน 15 วัน การศึกษาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพส้มโอและมังคุดที่ผ่านการเคลือบผิว พบว่า ควรเคลือบผิวส้มโอด้วยสารเคลือบผิวคาร์นูบาความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรักษาคุณภาพและความสด การบรรจุส้มโอที่เคลือบผิวในกล่องกระดาษลูกฟูกหรือกล่องกระดาษลูกฟูกบุด้วยถุง MAP ที่มีค่า OTR 12,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วัน สามารถยืดอายุส้มโอได้นานกว่า 9 สัปดาห์ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส และยังสามารถวางจำหน่ายที่อุณหภูมิห้องได้ไม่น้อยกว่า 7 วัน และมังคุดที่ผ่านการเคลือบผิวขนาดบรรจุ 8 กิโลกรัม พบว่าการบรรจุในตะกร้าพลาสติกที่บุด้วยถุง MAP ที่มีค่า OTR 12,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเมตร/วัน กล่องกระดาษลูกฟูก และกล่องกระดาษลูกฟูกที่บุด้วยถุง MAP ช่วยลดการสูญเสียน้ำหนัก ลดอาการเปลือกแข็งของมังคุด สามารถเก็บที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส ได้นาน 14 วัน และวางจำหน่ายที่อุณหภูมิห้องได้นาน 3 วัน ภายหลังนำออกจากห้องเย็น

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 19 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 26-12-2567

แจ้งไฟล์หาย