คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

พันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตหน้าวัว

คำหลัก : หน้าวัว (Anthurium andraeanum) ปรับปรุงพันธุ์ (Plant Breeding) ระบบ TIB (Temporary Immersion Bioreacto)

ผู้วิจัย : สุเมธ อ่องเภา

ผู้ร่วมวิจัย : ศิริลักษณ์ อินทะวงศ์,วาสนา สุภาพรหม,ประภาพร ฉันทานุมัติ,กัลยา เกาะกากลาง,นนทกร จันทร์แสง,ธารทิพย์ ภาสบุตร

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลำปาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 94 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการวิจัยพัฒนาพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตหน้าวัว เพื่อให้ได้หน้าวัวที่มีคุณภาพการผลิตและคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์มาตรฐานหน้าวัวตัดดอก ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรลำปาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร ศูนย์วิจัยพืชสวน และศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 สิ้นสุด 30 กันยายน 2564 โดยทำการรวบรวมพันธุ์ได้จำนวน 80 พันธุ์ ประกอบด้วยพันธุ์ไทย จำนวน 10 พันธุ์ และพันธุ์ต่างประเทศจำนวน 70 พันธุ์ ดำเนินการผสมและคัดเลือกพันธุ์ได้หน้าวัวลูกผสมสายพันธุ์ห้างฉัตร จำนวน 328 สายพันธุ์ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งสีจานรองดอก (แดง ส้ม ชมพู ขาว เขียว ม่วง และเหลืองในบางฤดู) และรูปร่างของจานรองดอก (กลุ่มหน้าวัวรูปหัวใจ และกลุ่มเปลวเทียน) การเปรียบเทียบพันธุ์หน้าวัวตัดดอกรูปหัวใจ พันธุ์ HC 028 HC 029 มีจำนวนดอกมากที่สุด เฉลี่ย 4.3 และ 4.5 ดอก/ต้น/ปี ตามลำดับ หน้าวัวตัดดอกเปลวเทียน พันธุ์ HC 092 มีจำนวนดอกมากที่สุด เฉลี่ย 6.0 ดอก/ต้น/ปี หน้าวัวกระถางพันธุ์ HC 003 HC 013 มีจำนวนดอกมากที่สุด เฉลี่ย 5.1 และ 6.8 ดอก/ต้น/ปี การทดสอบพันธุ์หน้าวัวในแปลงเกษตรกร จำนวน 6 พันธุ์ หน้าวัวพันธุ์ HC024 HC028 HC034 HC049 และ HC132 มีขนาดจานรองดอก (ความกว้าง x ความยาวของจานรองดอก) เฉลี่ย 8.7 - 10.6 x 11.2 - 12.4 เซนติเมตร สูงกว่าพันธุ์ Tropical ซึ่งมีขนาดของดอก 6.6 x 9.5 เซนติเมตร ส่วนการคัดเลือกหน้าวัวพันธุ์ทนทานต่อโรคเน่าดำ (P. Parasitica) จำนวน 4 คู่ผสม ได้แก่ เปลวเทียนขาว × Fantasia, Acropolis x เปลวเทียนแดง, ผกามาศ x Acropolis, Tropical x ผกามาศ และ Fantasia × เปลวเทียนแดง ส่วนการเปรียบเทียบพันธุ์หน้าวัวทนทานต่อโรคเน่าดำของหน้าวัวพันธุ์ชุดฝาง ได้แก่ ฝาง26 ฝาง32 และฝาง54 กับพันธุ์การค้าที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ คือ พันธุ์ผกามาศ และพันธุ์เปลวเทียนขาวที่มีอายุ 5 ปีหลังปลูก ทุกพันธุ์แสดงความต้านทานต่อโรคเน่าดำในระดับปานกลาง การขยายพันธุ์หน้าวัวโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพิ่มปริมาณแคลลัสหน้าวัวลูกผสมในอาหารเหลว อาหารแข็ง และ TIB ซึ่งประกอบด้วยอาหารเหลว 3 ขวด อาหารแข็ง 5 ชวด และ Bio 1 ขวดๆ ละ 100 CC. หลังจากนั้น 8 เดือน มีอัตราเพิ่มขยายเพิ่มขึ้น 4 : 1.7 : 2 เท่าจากเดิม การทดสอบสูตรอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกผสมหน้าวัวพันธุ์ใหม่ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ HC 024 HC 028 HC 034 HC 049 และ HC 132 การชักนำให้เกิดแคลลัส อาหารสังเคราะห์ที่เติมฮอร์โมน BA 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ 2,4-D 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้มีอัตราการเกิดแคลลัสมากที่สุด คือ ร้อยละ 65 และมีขนาดแคลลัสมากที่สุด คือ มีความกว้าง 1.53 เซนติเมตร ความยาว 1.86 เซนติเมตร และน้ำหนัก 344 มิลลิกรัม

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 37 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 27-12-2567

แจ้งไฟล์หาย