คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การผลิตลางสาดเกาะสมุย

คำหลัก : ลางสาดเกาะสมุย สัณฐานวิทยา ลักษณะประจำพันธุ์

ผู้วิจัย : ไพบรูณ์ เปรียบยิ่ง

ผู้ร่วมวิจัย : สุธีรา ถาวรรัตน์, หทัยกาญจน์ สิทธา, จิตติลักษณ์ เหมะ และจินตนาพร โคตรสมบัติ

หน่วยงาน :

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 46 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยและพัฒนาการผลิตลางสาดเกาะสมุย มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและศึกษาลักษณะประจำพันธุ์คัดเลือกสายต้นลางสาดเกาะสมุยสายพันธุ์ดี รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตลางสาดเกาะสมุย และได้ข้อมูลสนับสนุนการขอรับรองเป็นพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ระหว่างปี 2561 - 2564 ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีและศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุราษฎร์ธานี จากการสำรวจสภาพพื้นที่ ศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาและลักษณะประจำพันธุ์ของลางสาดเกาะสมุย พบว่า สภาพพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบดอนลักษณะดินเป็นดินร่วนทราย มีความอุดมสมบูรณ์สูง โดยลักษณะประจำพันธุ์ของลางสาดเกาะสมุยที่เด่นชัด คือ ทรงผลค่อนข้างรียาว เมื่อผลหลุดออกจากช่อจะมีขั้วผล (calyx) หลุดติดออกมาด้วย เปลือกผลมีสีน้ำตาลอ่อน เปลือกเมื่อแกะมียาง (milky sap) น้อย ผลสุกมีลักษณะใส เนื้อแห้ง ผลสุกมีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอม จากนั้นดำเนินการคัดเลือกสายต้นลางสาดเกาะสมุยที่มีลักษณะดี จำนวน 10 สายต้น ลางสาดภาคตะวันออกและลางสาดอุตรดิตถ์แหล่งละ 1 สายต้น รวมทั้งหมด 12 สายต้น พบว่า ต้นลางสาดที่ปลูกมีอัตราการรอดเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์และทำการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตลางสาดเกาะสมุยในพื้นที่เกษตรกร โดยจัดการธาตุอาหาร การตัดแต่ง (กิ่งช่อดอก ช่อผล) และจัดการโรคแมลง ดำเนินการในแปลงเกษตรกร จำนวน 14 แปลง มี 2 กรรมวิธี คือ วิธีแนะนำและวิธีของเกษตรกร พบว่า ผลผลิตของวิธีแนะนำเฉลี่ย 587 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ในขณะที่วิธีเกษตรกรได้ผลผลิตเฉลี่ย 454 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี นอกจากนี้พบว่า วิธีแนะนำมีต้นทุนเฉลี่ย 174 บาทต่อต้นต่อปี ในขณะที่วิธีเกษตรกรมีต้นทุนเฉลี่ย 140 บาทต่อต้นต่อปี เมื่อพิจารณารายได้สุทธิพบว่า วิธีแนะนำมีรายได้สุทธิเฉลี่ย 10,554 บาทต่อต้นต่อปี ในขณะที่วิธีเกษตรกรมีรายได้สุทธิเฉลี่ย 7,071 บาทต่อต้นต่อปีเมื่อทำการวิเคราะห์ความแตกต่างผลผลิต ต้นทุนการผลิต และรายได้สุทธิ พบว่าความแตกต่างของผลผลิต (Yield gap) เท่ากับ 133 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการปุ๋ยเท่ากับ 97 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ในส่วนของค่าความแตกต่างของต้นทุนการผลผลิต (Cost gap) เท่ากับ 34 บาทต่อต้นต่อปี เป็นผลมาจากการตัดแต่ง เท่ากับ 20.40 บาทต่อต้นต่อปีและค่าความแตกต่างของรายได้สุทธิ (Return gap) เท่ากับ 3,482 บาทต่อต้นต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการปุ๋ยเท่ากับ 2,273.75 บาทต่อต้นต่อปี จากการดำเนินการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ พบว่า การแนะนำให้เกษตรกรทำการจัดการธาตุอาหารอย่างเหมาะสมและมีการตัดแต่ง (กิ่ง ช่อดอก ช่อผล) ตามพัฒนาการของผลผลิตตามกรรมวิธีแนะนำของกรมวิชาการเกษตรเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่ดีและมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 21 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 02-01-2568

แจ้งไฟล์หาย