คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

บัวหลวงเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม

คำหลัก : บัวหลวง ปรับปรุงพันธุ์การใช้ประโยชน์ เทคโนโลยีการผลิต การทดสอบประสิทธิภาพ อายุการเก็บเกี่ยว

ผู้วิจัย : สุภาภรณ์ สาชาติ

ผู้ร่วมวิจัย : อำนวย อรรถลังรอง, อรุณี ใจเถิง, สุดใจ ล้อเจริญ, วณิชญา ฉิมนาค, อุชฎา สุขจันทร์, เมธาพร นาคเกลี้ยง, สุรพงษ์ อนุตธโต, อนุรักษ์ สุขขารมย์, ศยามล แก้วบรรจง, นันทนัช พินศรี, วัชรพล บ าเพ็ญอยู่, ธัญพร งามงอน, เมรินทร์ บุญอินทร์, มนัสภร ฉิ่งวังตะกอ, จิตอาภา จิจุบาล, เอมอร เพชรทอง, จิณณจาร์ หาญเศรษฐสุข, ละมัย สงสั้น, เมธาพร พุฒขาว, สมชาย บุญประดับ, เกษร แช่มชื่น, พินิจ เขียวพุ่มพวง, อรรถพล รุกขพันธ์, สุทธินันท์ ประสาธน์สุวรรณ์, สายไหม นพรัตน์, ยุวดี ไชยสังข์, จิรัสชญาพร รณเรืองฤทธิ์, สมชัย สุวงศ์ศักดิ์ศรี, อิศเรส เทียนทัด, ภัทรพร สรรพนุเคราะห์ และมนต์สรวง เรืองขนาบ

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 90 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          โครงการวิจัยและพัฒนาบัวหลวงเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ วิจัยและพัฒนาพันธุ์บัวหลวง และวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตบัวหลวง ดำเนินการระหว่างปี 2558 - 2564 โดยกิจกรรมวิจัยและพัฒนาพันธุ์บัวหลวง พบว่าการศึกษาลักษณะประจำพันธุ์บัวหลวง ได้ข้อมูลลักษณะประจำพันธุ์ของบัวหลวงที่เป็นแหล่งพันธุกรรมของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 6 สถานที่ อย่างน้อย 64 สายต้น เพื่อจัดทำฐานข้อมูล การวิจัยและพัฒนาพันธุ์บัวหลวง ซึ่งเป็นส่วนหลักของโครงการนี้ ประกอบด้วย การเปรียบเทียบและทดสอบพันธุ์บัวหลวงเพื่อการใช้ประโยชน์/การบริโภคส่วนต่างๆ ได้แก่ เมล็ด รากและดอก พันธุ์บัวหลวงเพื่อการผลิตเมล็ด สายพันธุ์คัดเลือก คือ สายพันธุ์ลูกผสมบางพระ 3/2 พันธุ์บัวหลวงเพื่อการผลิตดอก สายพันธุ์คัดเลือก คือ สายพันธุ์ปทุมธานี 39 และพันธุ์บัวหลวงเพื่อการผลิตรากและไหล คือ สายพันธุ์อุบลราชธานี 30 และสายพันธุ์ขาวสงขลา (SKL.Wh.Sto: 54-02) และการสร้างลูกผสมพันธุ์ใหม่ การปรับปรุงพันธุ์บัวสำหรับผลิตเมล็ด พบว่าลูกผสม ChHy04 X ยโสธร1(43) และลูกผสม Nnu_A003 X ChHy04 (8) ดีกว่า พันธุ์เกษตรกรโดยพิจารณาจากผลผลิต/ไร่ จำนวนเมล็ด/ฝัก และร้อยละของฝักสมบูรณ์และการปรับปรุงพันธุ์บัวสำหรับผลิตดอก การคัดเลือกรอบที่ 2 ได้เพิ่มปริมาณและปลูกเปรียบเทียบในสภาพการผลิตจริง คัดเลือกต้นที่มีการเจริญเติบโตดี ได้ 8 สายต้น สำหรับวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตบัวหลวง ผลของปุ๋ยโพแทสเซียมและโบรอนต่อผลผลิตรากบัวของบัวหลวงสายพันธุ์ไทย พบว่าวิธีที่ให้ผลดีที่สุด คือ การใส่ปุ๋ยอัตรา 7.5-7.5-15 กิโลกรัมต่อไร่ ของ N-P2O5-K2O โดยมีการใส่ปุ๋ยโบรอนอัตรา 1.2 กิโลกรัมต่อไร่ การทดสอบประสิทธิภาพสารชีวภัณฑ์ สารสกัดจากพืชและสารเคมีกำจัดแมลงเพื่อควบคุมและกำจัดเพลี้ยไฟในบัวหลวงในพื้นที่ชุ่มน้ำ พบว่าสารที่มีประสิทธิภาพดีในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในบัวหลวงในพื้นที่ชุ่มน้ำ คือ พ่น imidacloprid 10% W/V SL อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และเชื้อราขาว B. bassiasna 109 อัตรา 100 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟได้เฉลี่ย 70% ในระยะเวลา 7 วัน และทดสอบประสิทธิภาพสารชีวภัณฑ์ สารสกัดจากพืชและสารเคมีกำจัดแมลงเพื่อควบคุมและกำจัดเพลี้ยอ่อนในบัวหลวงในพื้นที่ชุ่มน้ำ พบว่าการระบาดยังไม่สม่ำเสมอและปริมาณเพลี้ยอ่อนบัวยังไม่เพียงพอสำหรับทำทดสอบ และอายุการเก็บเกี่ยวมีผลต่อการให้ผลผลิตไหลและรากบัวของบัวหลวง สายพันธุ์ดีเด่นจากการรวบรวมพันธุ์ในสภาพพื้นที่จังหวัดพัทลุงพบว่า สายพันธุ์สตูล 28 เหมาะสำหรับใช้เป็นสายพันธุ์เพื่อการผลิตราก และอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม คือ การเก็บเกี่ยวที่อายุ 2 ปี

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 23 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 30-01-2568

แจ้งไฟล์หาย