คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายขนาดเล็ก

คำหลัก : สาหร่ายขนาดเล็ก การเพาะเลี้ยง แคโรทีนอยด์ ไขมัน พอลิแซ็กคาไรด์ พอลิเมอร์ชีวภาพ

ผู้วิจัย : นราทร สุขวิเสส

ผู้ร่วมวิจัย : สุรีย์รัตน์ รักเหลือ,จารุวรรณ์ รัตนสกุลธรรม,อกนิษฐ์ พิศาลวัชรินทร์,วิมลวรรณ วัฒนวิจิตร,ปาริชาติ อยู่แพทย์,ศิริพร เต็งรัง,กนกศักดิ์ ลอยเลิศ,สุปรียา ศุขเกษม,วุฒิพล จันทร์สระคู

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร สถาบันเกษตรวิศวกรรม

ปี: 2564

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 85 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          สาหร่ายขนาดเล็ก (Microalgae) เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ภายในเซลล์มีการสะสมสารสำคัญที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เช่น สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในกลุ่มสารแคโรทีนอยด์ พอลิแซ็กคาไรด์ ไขมัน และพลาสติกชีวภาพ จากผลการคัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายขนาดเล็กจำนวน 6 สายพันธุ์ ที่สามารถนำไปผลิตสารสำคัญได้แตกต่างกัน คือ สายพันธุ์ที่ผลิตสารแคโรทีนอยด์ ได้แก่ Coelastrella sp. (SK-QSGMF6) และ Coelastrum sp.(SK-KhY6) สายพันธุ์ที่ผลิตสารพอลิแซ็กคาไรด์ได้ คือ Coelastrum microporum (A052) สายพันธุ์ที่ผลิตไขมันได้ คือ Botryococcus sp. (CM01-4) และ Desmodesmus sp. (KK20) และสายพันธุ์ที่ผลิตพอลิเมอร์ชีวภาพได้ คือ Nostoc sp. (Sm6-3) ผลการศึกษาสูตรอาหารมาตรฐานที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงและผลการชักนำการสะสมสารสำคัญด้วยเกลือโซเดียมคลอไรด์ในระดับห้องปฏิบัติการ พบว่าการเพาะเลี้ยงด้วยสูตรอาหาร Modified Chu-13 และการชักนำด้วยโซเดียมคลอไรด์0.3 โมลาร์เหมาะสมกับสาหร่าย SK-QSGMF6 แต่ที่ความเข้มข้น 0.2 โมลาร์จะเหมาะสมกับสาหร่าย CM01-4 และ KK20 การเพาะเลี้ยงด้วยสูตรอาหาร BG-11 และการชักนำด้วยโซเดียมคลอไรด์ 0.3 โมลาร์เหมาะสมกับสาหร่าย SK-KhY6 และ A052 และการเพาะเลี้ยงด้วยสูตร BG-11 (N-free) และการชักนำด้วยโซเดียมคลอไรด์ 0.1 โมลาร์เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Sm6-3 ผลการใช้
ปุ๋ ยเคมีเพื่อทดแทนสูตรอาหารมาตรฐานในการเพาะเลี้ยงแบบบ่อเปิดขยายขนาดพบว่าปุ๋ ย 16-8-8 เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสาหร่าย SK-QSGMF6, SK-KhY6 และ A052 ปุ๋ย 15-15-15 เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสาหร่าย CM01-4 และ KK20 และปุ๋ย 8-24-24 เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Sm6-3 ผลการศึกษาวิธีการสกัดสารจากเซลล์สาหร่ายขนาดเล็กและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มีดังนี้ การสกัดสาหร่าย SKQSGMF6 และ SK-KhY6 ด้วยเทคนิค SFE ความดัน 500 บาร์ อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ได้ SK-QSGMF6 ที่มีสารแอสตาเเซนทินสูงที่สามารถใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวได้ 0.02 เปอร์เซ็นต์ และสารสกัดแคโรทีนอยด์จากสาหร่าย SK-KhY6 ที่มีสารไลโคปีนเป็นองค์ประกอบที่สามารถใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์กหน้าที่ใช้เจลว่านหางจระเข้เป็นเบสในปริมาณ 0.015 เปอร์เซ็นต์ ผลการศึกษาการผลิตสีผงจากเซลล์สาหร่ายเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 3 สารสีได้แก่ สารสีคลอโรฟิลล์ (เขียว) และสารสีไฟโคบิลิน (ฟ้า) จากสาหร่าย A052 และสารสีแคโรทีนอยด์ (ส้ม) จากสาหร่าย SK-QSGMF6 ได้วิธีการสกัดสารสีและวิธีผสมกับมอลโตเด็กซ์ทริน และการทำแห้งแบบพ่นฝอยในสภาวะที่เหมาะสม จนได้สีผงแต่ละชนิดที่มีปริมาณสารคลอโรฟิลล์ 38.75mg/100g สารแคโรทีนอยด์ 19.39 mg/100g และสารไฟโคบิลิน 36.96 mg/100g ตามลำดับ ผลการศึกษาวิธีการสกัดสารพอลิแซ็กคาไรด์และใยอาหารจากสาหร่าย A052 ที่เหมาะสมจนได้ปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์ 3.97 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก สามารถใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ซุปข้าวโพดเพื่อเพิ่มความข้นหนืดได้ 1.5 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณใยอาหารทั้งหมดที่สกัดได้82.16 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง หลังการใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เส้นพาสต้า 3 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีปริมาณใยอาหารเพิ่มขึ้น 0.84 เปอร์เซ็นต์ ผลการศึกษาวิธีการผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่าย CM01-4 และ KK20 พบว่าการสกัดชีวมวลสาหร่ายแห้งด้วยตัวทำละลายอะซีโตนสามารถสกัดไขมันได้ 0.1034 และ 0.0942 กรัมต่อกรัมแห้ง ตามลำดับ หลังการทำปฏิกิริยาทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นได้ความบริสุทธิ์ของไบโอดีเซล 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความบริสุทธิ์มากกว่าการทำปฏิกิริยาโดยตรงกับชีวมวลสาหร่ายสด ผลการศึกษาการผลิตพลาสติกชีวภาพจากสาหร่าย Sm6-3 พบว่าหลังการพรีทรีตเมนต์สามารถนำชีวมวลสาหร่ายดังกล่าว มาใช้เป็นส่วนผสมหลักร่วมกับสารพอลิไวนิลแอลกอฮอล์ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ และแป้งสตาร์ช 20 เปอร์เซ็นต์ ในการขึ้นรูปเป็นแผ่นพลาสติกชีวภาพที่สามารถพับและซีลด้วยความร้อนทำเป็นถุงเพาะชำได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 37 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 03-02-2568

แจ้งไฟล์หาย