คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการผลิตข้าวโพด

คำหลัก : ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว ลดตันทุน ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์1 ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต

ผู้วิจัย : พีชณิตดา ธารานุกูล

ผู้ร่วมวิจัย : สุชาติ แก้วกมลจิต, วิลาสลักษณ์ ว่องไว, นริศรา อินทจักร, วัฒนนิกรณ์ เทพโพธา, สันติ โยธาราษฎร์, วลีรัตน์ วรกาญจนบุญ, ว่าที่ร้อยตรีอนุชา เหลาเคน และกุหลาบทิพย์ หอมชมชื่น

ปี: 2563

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 85 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยและทดสอบเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพด ประกอบไปด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดฝักสด และกิจกรรมที่ 2 การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดด้วยปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์วัน และปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต และเพื่อทดสอบเทคโนโลยีการจัดการรูปแบบการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมสำหรับเป็นต้นสดอาหารสัตว์ ดำเนินการระหว่างเดือนตุลาคม 2561 ถึงเดือนกันยายน 2563 ณ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด โดยจากผลการทดลองพบว่า การใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์วันและปุ๋ยละลายฟอสเฟตร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีในการผลิตข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยลดอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีลง 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์วัน และลดอัตราปุ๋ยฟอสฟอรัสลง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงรายกรสามารถเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิตและลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีลงได้ การยอมรับเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 และปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตจากการสอบถามเกษตรกรที่ร่วมงานทดสอบพบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อการใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์1 และปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตในการผลิตข้าวโพด เนื่องจากพบว่าสามารถลดต้นทุนการผลิตค่าปุ๋ยเคมีลงได้ โดยที่ผลผลิตไม่ลดลงแต่ยังสามารถเพิ่มผลผลิตได้อีกด้วย ส่วนการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตัดต้นสด ในและจังหวัดร้อยเอ็ด ในปีที่ 1 ทำการทดสอบรูปแบบการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตัดต้นที่เหมาะสมพบว่า รูปแบบการปลูกโดยวิธีการหว่านอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ และ 40 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดมหาสารคาม ให้ผลผลิตสูงที่สุด ตามลำดับ จังหวัดร้อยเอ็ดพบว่า การใช้ระยะปลูก 30 x 5 เซนติเมตร ให้ผลผลิตสูงสุด ปีที่ 2 นำผลการวิจัยปีที่ 1 ไปทดสอบในแปลงเกษตรกร ประกอบไปด้วย 2 กรรมวิธี คือ กรรมวิธีทดสอบใช้รูปแบบการปลูกจากผลการทดลองในปีที่ 1 ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์1 เปรียบเทียบกับวิธีเกษตรกรใช้รูปแบบการปลูกและใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีเกษตรกรพบว่า กรรมวิธีทดสอบให้ผลผลิต และรายได้สูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ส่วนคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างกันในแต่ละกรรมวิธีทั้งสองปีในทุกจังหวัด

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 28 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 10-02-2568

แจ้งไฟล์หาย