คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การใช้จุลินทรีย์ดินเพื่อลดการใส่ปุ๋ยเคมีและเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารในการปลูกสับปะรด

คำหลัก :

ผู้วิจัย : สนธยา ขำติ๊บ

ผู้ร่วมวิจัย : กนกอร บุญพา, บุณฑริก ฉิมชาติ, กิตจเมธ แจ้งศิริกุล, สุปรานี มั่นหมาย, นิศารัตน์ ทวีนุต และธวัชชัย อินทร์บุญช่วย

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และคณะเกษตร กำแพงแสนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ปี: 2563

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 54 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการใช้แบคทีเรียละลายทั้งฟอสเฟตและโพแทชลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีและเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารของสับปะรดเริ่มต้นจากคัดเลือกแบคทีเรียที่มีความสามารถละลายทั้งฟอสเฟตและโพแทช และราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา (AM) ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารของสับปะรด จากนั้นนำแบคทีเรียละลายทั้งฟอสเฟตและโพแทชและรา AM ที่ได้ทดสอบร่วมกับการปลูกสับปะรดในสภาพกระถาง จากการทดลองพบว่า สามารถคัดเลือกแบคทีเรียละลายทั้งฟอสเฟตและโพแทชที่มีประสิทธิภาพ คือ Burkholderia ferrariae PaS2(1) ซึ่งเมื่อนำไปศึกษาร่วมกับปุ๋ยเคมีในการปลูกสับปะรดในสภาพกระถาง พบว่า การใช้ B. ferrariae PaS2(1) แช่หน่อพันธุ์ก่อนปลูกร่วมกับปุ๋ยเคมี สามารถลดอัตราการใช้ปุ๋ยเคมีฟอสเฟตและโพแทชลงร้อยละ 50 ของอัตราแนะนำ คือ ลดลงจากอัตรา 4.20-1.80-3.88 กรัม N-P2O5-K2O ต่อดิน 18 กิโลกรัม เป็น 4.20-0.90-1.94 กรัม N-P2O5-K2O ต่อดิน 18 กิโลกรัม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อร้อยละการติดดอก และผลผลิตของสับปะรดทั้งปริมาณผลผลิต (น้ าหนักผลและขนาดผล) และคุณภาพผลผลิต (ความหวาน ความเข้มข้นน้ าตาล และความฉ่ า) นอกจากนี้การใช้ B. ferrariae PaS2(1) แช่หน่อพันธุ์ก่อนปลูกร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมียังช่วยเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสที่ และโพแทสเซียมในดินด้วย
          ในส่วนของการคัดเลือกรา AM ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารของสับปะรดสามารถคัดเลือกรา AM ที่สามารถเพิ่มจำนวนสปอร์และเปอร์เซ็นต์การเข้าอาศัยในรากสูงสุดได้ 5 ไอโซเลท คือ SMZ62-1 SMZ47-5 SMZ79-4 SMZ62-2 และ SMZ79-3 ซึ่งเมื่อนำไปศึกษาร่วมกับปุ๋ยเคมีในการปลูกสับปะรดในสภาพกระถาง โดยใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน อัตรา 4-2-4 กรัม N-P2O5-K2O ต่อดิน 18 กิโลกรัม พบว่า รา AM ไอโซเลทที่ SMZ79-3 สามารถเพิ่มการดูดใช้ไนโตรเจนสูงสุดในทุกส่วนของสับปะรด ได้แก่ ลำต้นรวมใบ ราก จุกเปลือกผล และเนื้อผล เท่ากับ 2.430 0.351 0.387 0.298 และ 0.305 กรัมต่อต้น อีกทั้งช่วยให้สับปะรดมีการดูดใช้ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงสุดในส่วนลำต้นรวมใบและราก และมีค่าการดูดใช้แมกนีเซียมสูงสุดในรากและเปลือกผลอีกด้วย ส่วนการทดสอบการใช้รา AM ร่วมกับแบคทีเรียละลายทั้งฟอสเฟตและโพแทช พบว่าการใช้รา AM ไอโซเลทที่ SMZ79-4 อย่างเดียว และการใช้รา AM ไอโซเลทที่ SMZ79-4 ร่วมกับการแช่หน่อพันธุ์สับปะรดด้วย B. ferrariae PaS2(1) ก่อนปลูก ช่วยส่งเสริมต่อความกว้างและความยาวของใบ D-leaf และทรงพุ่มได้ดีมีค่า 3.15 69.57 และ 111.83 เซนติเมตร นอกจากนี้การใช้รา AM ไอโซเลทที่ SMZ62-1 ร่วมกับแช่หน่อพันธุ์สับปะรดด้วย B. ferrariae PaS2(1) ก่อนปลูก ส่งผลต่อการสะสมปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียมทั้งหมดในลำต้นและรากได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 21 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 10-02-2568

แจ้งไฟล์หาย