คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนคุณภาพระยะที่ 2 (ปี 2559 - 2563)

คำหลัก : ทุเรียน การจัดทรงพุ่ม ประสิทธิภาพการผลิต ระบบปลูกระยะชิด ระบบปลูกระยะปกติ

ผู้วิจัย : ศิริพร วรกุลดำรงชัย

ผู้ร่วมวิจัย : อัมพิกา ปุนนจิต, มาลัยพร เชื้อบัณฑิต, วีรญา เต็มปีติกุล, รัชนี ฉัตรบรรยงค์, อรวินทินีชูศรี, วรางคณา มากกำไร, ปัญจพร เลิศรัตน์, วิโรจน์ โหราศาสตร์, ส าเริง ช่างประเสริฐ, อภิรดี กอร์ปไพบูลย์,ธีรวุฒิ ชุตินันทกุล และปิยะมาส โสมภีร์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี

ปี: 2563

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 50 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ในอนาคตการทำสวนทุเรียนมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนคุณภาพ ระยะที่ 2 (ปี 2559 - 2563) จึงศึกษาหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนคุณภาพที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนที่เหมาะสมและครบถ้วนในลักษณะของ Package of technology ดังนี้
          การออกแบบสวนต้นทุเรียนระยะชิด แนวตั้ง ระยะปลูก 7 x 4 เมตร ความสูง 6 เมตร จำนวน 57 ต้น/ไร่ พบว่าทรงต้นแบบพุ่มแกนปั่นด้ายเรียวมีจำนวนดอก/ต้น จำนวนผล/ต้น และน้ำหนักผลผลิตรวมเฉลี่ยมากที่สุด เท่ากับ 3,399.0 ดอก/ต้น 20.7 ผล/ต้น และ 82.5 กก./ต้น ตามลำดับ รวมทั้งมีต้นทุนต่ำกว่าทุกกรรมวิธีเท่ากับ 6.5 บาท/กก. คิดเป็นนกำไรเท่ากับ 68.8 บาท/กก. หรือ 319,785.7 บาท/ไร่ รองลงมา คือ ทรงสี่เหลี่ยมตำแหน่งกิ่งแบบบันไดเวียน ทรงสี่เหลี่ยมตำแหน่งกิ่งตามธรรมชาติ ทรงปิรามิดตำแหน่งกิ่งแบบบันไดเวียน และทรงปิรามิดตำแหน่งกิ่งตามธรรมชาติตามลำดับ
          การศึกษาอิทธิพลของวัสดุห่อผลที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของผลผลิตทุเรียนในแปลงระยะปลูกชิด ทำการห่อผลทุเรียนด้วยวัสดุต่างๆ เมื่อผลทุเรียนอายุ1.5 เดือนหลังดอกบานจนถึงเก็บเกี่ยว ได้แก่ ถุงกระดาษห่อขนุน, ถุงกระดาษคาร์บอน 2 ชั น, ถุงกระดาษคราฟท์ห่อกล้วย, ถุงรีเมย์, ถุงตาข่ายไนล่อนสีนำเงิน, ถุงพลาสติก Polyethylene แบบใส และถุงพลาสติก Polyethylene สีนำเงิน พบว่าวัสดุห่อผลทุกชนิดสามารถช่วยป้องกันโรคและแมลงที่เป็นนศัตรูที่สำคัญของผลทุเรียนได้ ลดจำนวนครั้งในการพ่นสารเคมีได้อย่างน้อย 5 ครั้ง สีผิวของผลทุเรียนสวยงามตั้งแต่สีเขียวจนถึงเหลืองตามคุณสมบัติของวัสดุห่อผลแต่ละชนิด เป็นการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของผลผลิตทุเรียน
          การให้ปุ๋ยทางนำในทุเรียนแม้จะไม่ให้ผลเด่นชัดในการช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของทุเรียนหมอนทองตลอดการทดลองทั้ง 3 ปี แต่มีข้อดีที่เด่นชัดในการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ปุ๋ยทางดินที่เป็นนวิธีปฏิบัติของเกษตรกร โดยการให้ปุ๋ยทางนำจากใช้ค่าวิเคราะห์ดินเป็นนเกณฑ์ในการคำนวณปริมาณปุ๋ยมีต้นทุนการผลิตต่ำสุด (ต่ำกว่าการใช้ปุ๋ยทางดินถึง 58%) สามารถใช้เป็นนข้อมูลในการแนะนำแก่เกษตรกรผู้สนใจใน
          การทำการเกษตรสมัยใหม่ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภคการกระตุ้นให้ทุเรียนสร้างภูมิต้านทานโรครากเน่าโคนเน่าได้ดีสามารถทำได้โดยปรับ pH ของดินร่วมกับการใส่ปุ๋ยหมักที่มีเชื้อไตรโคเดอร์ม่า และการใช้ฟอสฟอริกแอซิดฉีดเข้าลำต้นทำให้ต้นทุเรียนมีการเจริญเติบโตที่ดี แข็งแรง และทนทานต่อการเกิดโรครากเน่าโคนเน่า เมื่อเกิดการเข้าทำลายของเชื้อโรคที่โคนต้นหรือกิ่ง การรักษาแผลหายได้รวดเร็ว
          ผลของ NAA, GA3, CPPU ต่อการผลิตทุเรียนพวงมณีเมล็ดลีบพบว่า ผลทุเรียนที่ได้รับ NAA 500ppm ในสัปดาห์ที่ 3 และ 6 หลังดอกบาน มีเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบมากที่สุด มากกว่ากรรมวิธีควบคุม 15 - 25% แต่ไม่ได้ทำให้มีเนื้อหนาเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำหนักผล ความหนาเปลือก เส้นรอบวง ความกว้างและความยาวของผลทุเรียนในทุกกรรมวิธี ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 16 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 10-02-2568

แจ้งไฟล์หาย