คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

กระบวนการการผลิตกาแฟคุณภาพ

คำหลัก :

ผู้วิจัย : โกเมศ สัตยาวุธ

ผู้ร่วมวิจัย : อารีรัตน์ การุณสถิตย์ชัย, สุกัญญา นิติยนต์, สุภาภรณ์ เหลืองไพบูลย์ศรี, ศจีรัตน์ กางกั้น, ฉัตรนภา ข่มอาวุธ, ปานหทัย นพชินวงศ์, วิมล แก้วสีดา, บุญพา ชูผอม และสุภัทรา เลิศวัฒนาเกียรติ

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืข ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรหลวงเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสตูล และสถาบันวิจัยพืชสวน

ปี: 2563

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 76 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การผลิตกาแฟคุณภาพจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและรับรองการผลิตตั้งแต่แปลงทดสอบถึงแหล่งผลิต เพื่อสร้างความเชื่อถือให้แก่ผู้รับซื้อรวมทั้งผู้บริโภค อย่างไรก็ตามระบบการเก็บเกี่ยวกาแฟในปัจจุบันไม่มีเกณฑ์และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนให้เกษตรกรตัดสินใจเก็บเกี่ยว รวมทั้งเมล็ดกาแฟที่ทำการซื้อขายนั้นไม่มีการจัดทำข้อมูลระดับประเทศเพื่อปรับปรุงมาตรฐานเมล็ดกาแฟและการรับรองพิสูจน์อัตลักษณ์เมล็ดกาแฟยังเป็นที่ถกเถียงก่อให้เกิดปัญหาถึงการผลิตกาแฟให้ได้คุณภาพในแหล่งที่มา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการลักลอบการนำเข้าเมล็ดกาแฟเพื่อทำลายตลาดกาแฟในประเทศ โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตกาแฟคุณภาพมุ่งแก้ปัญหาการจัดการระบบการผลิตทั้งสามประเด็นดังกล่าวโดยความร่วมมือจากภาคราชการ ภาคการศึกษาและภาคเอกชนเพื่อรวบรวมข้อมูลปรับปรุง (1.) ระบบการตรวจสอบและพัฒนากาแฟคุณภาพ ตั้งแต่การพัฒนาข้อมูลสนับสนุนการเก็บเกี่ยวกาแฟ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ อาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 โดยใช้เกณฑ์ความหวาน (oBrix) และโรบัสต้าพันธุ์ชุมพร 2 ใช้การเปลี่ยนแปลงสีเปลือกและปริมาตรผลเชอรี่ที่มีผลรวมทั้งปริมาณสารประกอบกรดเมทิลบิวทาโนอิกและคาเฟอีน (2.) ระบบการตรวจจำแนกกาแฟอะราบิก้าและโรบัสต้าและจำแนกอัตลักษณ์แหล่งผลิตด้วยสารกลุ่มไดเทพีนสองชนิด ได้แก่ คาเฟสโทล และคาเวออล ที่สามารถใช้อัตราส่วน C/K เป็นตัวกำกับอัตลักษณ์ซึ่งจากผลการทดสอบจะคงที่ตั้งแต่ 90 วันหลังดอกบานถึงกระบวนการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ (3.) ระบบการจัดชั้นสารกาแฟโดยอ้างอิงจากมาตรฐานกาแฟกาแฟโลกจัดจำแนกข้อบกพร่องของประเทศไทยโดยพบว่า ข้อบกพร่องหลักที่พบมากที่สุด คือ เมล็ดที่มีแมลงทำลาย รองลงมา คือ เมล็ดเชื้อรา ซึ่งพบเกินเกณฑ์มาตรฐานของประเทศไทย และสามารถจัดชั้นคุณภาพของเมล็ดกาแฟอะราบิกาได้ 4 ระดับ ได้แก่ เกรดคัดพิเศษ เกรดเอ เกรดรวม และไม่คัดเกรด และเมล็ดกาแฟโรบัสตาได้ 4 ระดับ ได้แก่ เกรดเอ เกรดเอบี เกรดบี และไม่คัดเกรด ทั้งนี้ระบบการยกระดับการผลิตผลกาแฟที่เป็นผลผลิตของโครงการวิจัย ผลักดันกาแฟไทยไทยสู่คุณภาพระดับสากล จะช่วยให้เกษตรกรวางแผนการผลิต คาดคะเนผลการผลิต ป้องกันการกีดกันทางการค้า การลักลอบรวมทั้งผลักดันให้เกิดการซื้อขายอย่างเป็นธรรมตามมาตรฐานที่หน่วยงานรัฐได้กำหนดไว้ ตอบรับการเติบโตของตลาดกาแฟในประเทศและภูมิภาคเพื่อการยอมรับและทำรายได้ให้ประเทศต่อไป

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 19 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-02-2568

แจ้งไฟล์หาย