คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการผลิตพืชอินทรีย์ที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ลาภิสรา วงศ์แก้ว

ผู้ร่วมวิจัย : สุทธินี ลิขิตตระกูลรุ่ง,นิสิต บุญเพ็ง,อาทิตยา พงษ์ชัยสิทธิ์,สิริพร มะเจี่ยว

หน่วยงาน : สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1

ปี: 2563

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 57 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ภาคเหนือตอนบนประกอบด้วย 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน ลักษณะภูมิอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาวและลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชหลากหลายชนิดทั้งพืชเมืองหนาว และพืชเขตร้อนชื้นพื้นที่ทำการเกษตรอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาและที่ราบริมฝั่งแม่น้ำ ภาคเหนือตอนบนมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น 10.56 ล้านไร่ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญมีทั้งข้าว พืชไร่ พืชสวน ได้แก่ ไม้ผล รวมทั้งพืชผัก การทำการเกษตรในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ทางการเกษตรเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการเพิ่มผลผลิตในเรื่องของปุ๋ยเคมีและวัตถุอันตรายทางการเกษตรในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ผลิต ผู้บริโภค และระบบนิเวศน์ รวมทั้งห่วงโซ่อาหารในระยะยาว ดังนั้นจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบและพัฒนาเทโนโลยีการผลิตพืชระบบเกษตรอินทรีย์มี่เหมาะสม ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนสองด้านคือ 1. เพื่อทดสอบเทคโนโลยีการปรับปรุงบำรุงดินในการผลิตพืชผักและลำไย ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (ยุติกิจกรรมในปีงบประมาณ 2559) และ 2. เพื่อทดสอบเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชในการผลิตพืชผักและลำไยให้สอดคล้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (ดำเนินการ ในปีงบประมาณ 2559 - 2563) ทดสอบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ในเรื่องการทดสอบเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชในการ ผลิตพืชผักอินทรีย์ตระกูล Brassicaceae ในพืชที่ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าการทดสอบเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชของผักคะน้าด้วยใช้วิธีกล วิธีเขตกรรมร่วมกับการใช้สารชีวภัณฑ์ สามารถลดการระบาดของศัตรูพืชผักคะน้าที่สำคัญได้ที่เห็นผลเด่นชัด คือ การใช้ไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทยร่วมกับกับดักกาวเหนียว สามารถลดจำนวนด้วงหมัดผักลงได้ 30 - 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นยังพบว่าผลผลิตเฉลี่ยในฤดูฝน กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 182.09 กิโลกรัมต่อไร่ และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่าเฉลี่ย 184.59 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ในฤดูหนาว กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 262.87 กิโลกรัมต่อไร่ และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่าเฉลี่ย 264.64 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ รายได้สุทธิเฉลี่ย ในฤดูฝน กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 6996.3 บาท และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่าเฉลี่ย 6,370.5 บาท ตามลำดับ ในฤดูหนาว กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 7,179.89 บาท และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่าเฉลี่ย 7,166.22 บาท และผลตอบแทนต่อการลงทุน (BCR) ในฤดูฝน กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 2.22 และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่า 1.94 ตามลำดับ ในฤดูหนาว กรรมวิธีทดสอบมีค่าเฉลี่ย 2.10 และกรรมวิธีเกษตรกรมีค่า 1.85 ตามลำดับ ที่ค่า BCR มีค่า > 1 แสดงว่าสามารถแนะนำให้เกษตรกรกรปลูกคะน้าอินทรีย์ได้และมีกำไร ดังนั้นเกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชในการผลิตพืชผักให้สอดคล้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไปใช้ได้ สำหรับการทดสอบเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชในลำไยอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน โดยใช้เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานพบว่า การสำรวจศัตรูพืช การเขตกรรม ร่วมกับการใช้สารชีวภัณฑ์ ซึ่งสามารถลดการระบาดของศัตรูพืชที่สำคัญของลำไยได้ในกรรมวิธีทดสอบ มีผลผลิตลำไยอินทรีย์เฉลี่ย 333.66 กิโลกรัมต่อไร่ รายได้สุทธิเฉลี่ย 11, 567.33 บาทต่อไร่ และสัดส่วนรายได้ต่อการลงทุนเฉลี่ย (BCR) 1.61 ซึ่งสูงกว่ากรรมวิธีของเกษตรกร ที่มีผลผลิตลำไยอินทรีย์เฉลี่ย 301.00 กิโลกรัมต่อไร่ รายได้สุทธิเฉลี่ย 10,401.66 บาทต่อไร่ และสัดส่วนรายได้ต่อการลงทุนเฉลี่ย (BCR) 1.57 ซึ่งค่า BCR >1 แสดงว่าสามารถแนะนำให้เกษตรกรกรปลูกลำไยอินทรีย์ได้และมีกำไร นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยต้นทุนการผลิตจะลดลงในรายที่เกษตรกรสามารถทำสารชีวภัณฑ์ไว้ใช้เองในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 29 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 26-02-2568

แจ้งไฟล์หาย