คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ระบบระบายน้ำใต้ดินในแปลงปลูกมันส้าปะหลัง

คำหลัก : มันสำปะหลัง การระบายน้ำใต้ดิน

ผู้วิจัย : วิโรจน์ โหราศาสตร์

ผู้ร่วมวิจัย : เบญจมาศ คำสืบ, เมธาพร พุฒขาว, สราวุฒิ ปานทน, ธนพงค์ แสนจุ้ม และเอกภาพ ป้านภูมิ

หน่วยงาน :

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 26 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การปลูกมันสำปะหลังจะมีปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ โรครากหรือหัวเน่า (Root and Tuber Rot Diseases) ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ แปลงที่มีน้ำท่วมขัง พันธุ์มันสำปะหลังบางพันธุ์มีความอ่อนแอ เช่น พันธุ์ CMR 43-08-89 ระยอง 11 ระยอง 86-13 และห้วยบง 60 มีการตรวจพบเชื้อไฟทอปธอรา (Phytophthora
spp.) เชื้อราสเคลอโรเตียม (Sclerotium sp.) และเชื้อราอื่นๆ เพื่อทดสอบและลดเกิดโรครากหรือหัวเน่า ในแปลงทดลองของศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ที่มีวิธีการระบายน้ำ จำนวน 4 วิธี คือ 1) การระบายน้ำใต้ดินแบบทิ้งน้ำ 2) การระบายน้ำใต้ดินแบบควบคุมระดับน้ำ 3) ไถระเบิดชั้นดินดาน 4) การระบายน้ำแบบเกษตรกร ได้ทำการทดลองปลูกมันสำปะหลังพันธ์ CMR 43-08-89 รุ่นที่ 1 (พ.ค. 60 – พ.ค. 61) รุ่นที่ 2 (ก.ค. 61 – ก.ค. 62) พบว่ากรรมวิธีที่ 1 และ 2 มีน้ำใต้ดินระบายออกมามากทั้งสองกรรมวิธี ในช่วง 1 - 6 เดือนแรกของการปลูกมันสำปะหลังและเมื่อมันสำปะหลังมีอายุหลัง 6 เดือน จะมีระบายออกมาน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการระบายน้ำใต้ดินพบว่าการระบายน้ำใต้ดินทั้งสองกรรมวิธีมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แต่ระบบระบายน้ำใต้ดินทั้งสองกรรมวิธีจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากค่าการระบายน้ำรุ่นที่ 2 น้อยกว่า รุ่นที่ 1 ซึ่งมีสาเหตุมาจากเมื่อมีไถพรวนดินเพื่อปลูกซ้ำทำให้ชั้นดินที่ระดับความลึก 20 - 30 cm มีค่า Bulk density เกิน 1.75 g/cm3 ทำให้น้ำฝนซึมลงไปได้ยากขึ้น และทั้งสองกรรมวิธีสามารถลดความชื้นในดินได้ดีเมื่ออยู่ใกล้ท่อและความสามารถจะลดลงเมื่อมีระยะห่างจากท่อมากขึ้น 
          การเกิดโรครากหรือหัวเน่าในมันสำปะหลังในการปลูกทดสอบรุ่นที่ 1 พบการแสดงอาการโรครากเน่าในทุกกรรมวิธี แต่เมื่อเก็บผลผลิต มีเพียงกรรมวิธีที่ 2 การระบายน้ำใต้ดินแบบควบคุมระดับน้ำไม่พบโรครากเน่าหรือหัวเน่า และในรุ่นที 2 พบว่า มีกรรมวิธีที่ 1 เพียงกรรมวิธีเดียวที่แสดงอาการโรครากเน่า แต่เมื่อเก็บผลผลิตจะพบโรครากเน่าหรือหัวเน่าในทุกกรรมวิธี ซึ่งปัจจัยการเกิดโรครากหรือหัวเน่านั้นมีหลายปัจจัย จะเห็นได้ว่าการติดตั้งระบบระบายน้ำใต้ดินในกรรมวิธีที่ 1 และ 2 เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังภายในแปลง การไถระเบิดชั้นดินดานหรือการระบายน้ำแบบเกษตรกร ไม่สามารถยับยั้งหรือลดการเกิดโรครากหรือหัวเน่าในมันสำปะหลังได้แต่การคิดรายได้การปลูกมันสำปะหลังจากน้ำหนักผลผลิตและเปอร์เซ็นต์แป้ง พบว่ากรรมวิธีที่ 2 การระบายน้ำใต้ดินแบบควบคุมระดับน้ำให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุดทั้ง 2 รุ่น และการระบายน้ำแบบเกษตรกรรองลงมา

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 9 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 27-02-2568

แจ้งไฟล์หาย