คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การผลิต Startup ingredients สำหรับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ศุภมาศ กลิ่นขจร

ผู้ร่วมวิจัย : วิมลวรรณ วัฒนวิจิตร, ปาริชาติ อยู่แพทย์, โกเมศ สัตยาวุธ, อกนิษฐ์ พิศาลวัชรินทร์, ประยูร เอ็นมาก, สุรีรัตน์ รักเหลือ และสุปรียา ศุขเกษม

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 22 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยและพัฒนาการผลิต startup ingredients สำหรับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ startup ingredients เพื่อสุขภาพสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง คือ สารให้กลิ่นรสจากน้ำผลไม้เข้มข้นพรีไบโอติกสูง เอนแคปซูเลทสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดส และเนยเมล็ดมะม่วงเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยสารให้กลิ่นรสจากน้ำผลไม้เข้มข้นพรีไบโอติกสูง จะผลิตน้ำสับปะรดเข้มข้นด้วยการระเหยภายใต้สุญญากาศเพื่อให้มีปริมาณของแข็งที่ละลายได้สูง จากนั้นเปลี่ยนน้ำตาลที่เป็นองค์ประกอบในน้ำสับปะรดเข้มข้นให้เป็นสารพรีไบโอติกโดยใช้เอนไซม์ pectinex ultra SP-L 4 U/g sucrose ร่วมกับ glucose oxidase 1022 U/g sucrose และใช้สารละลายบัฟเฟอร์ Sodium acetate 0.5 M pH 5.6 ปริมาตร 40 µL ต่อน้ำผลไม้เข้มข้น 1 mL บ่มที่ 55 C 15 ชั่วโมง จะได้น้ำสับปะรดเข้มข้นที่ได้จะมีปริมาณฟรุกแตนร้อยละ 52.83 จากนั้นนำไปเอนแคปซูเลทโดยใช้อัลจิเนตเป็นสารเคลือบร้อยละ 2.0 และใช้หัวฉีดขนาด 0.45 mm แล้วนำไปให้ทดสอบความคงตัวของฟรุกแตนต่อการแปรรูปด้วยความร้อนระดับพาสเจอรไรซ์ที่อุณหภูมิ 80 - 90 C นาน 3 -15 นาที พบว่าฟรุกแตนในเอนแคปซูเลทมีปริมาณใกล้เคียงกันในทุกสภาวะการให้ความร้อน (ร้อยละ 30.18 - 30.70) การผลิตสารยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดสโดยวิธีเอนแคปซูเลชัน โดยศึกษาประสิทธิภาพของการยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดสใน หอมแดง ขมิ้นชัน และดอกอัญชัน พบว่า สารสกัดจากหอมแดงมีฤทธิ์ในการยับยั้งสูงที่สุด คือ ร้อยละการยับยั้ง 43.02 จากนั้นเอนแคปซูเลสารสกัดจากหอมแดงด้วยการทำแห้งแบบพ่นฝอยโดยใช้เวย์โปรตีนไอโซเลทร้อยละ 11 โดยน้ำหนักต่อปริมาตร จะได้เอนแคปซูเลทที่จะมีการยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดสร้อยละ 41.32 และมีความเสถียรที่สภาวะการให้ความร้อนระบบพาสเจอไรซ์แบบให้ความร้อนต่ำเวลานานและให้ความร้อนสูงเวลาสั้น รวมทั้งระบบยูเอชที ส่วนการทดลองการผลิตเนยเมล็ดมะม่วงเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยการลดความชื้นเนื้อในเมล็ดมะม่วงด้วยการอบในตู้อบลมร้อนที่ 55 C นาน 20 ชั่วโมง จากนั้นนำมาบดละเอียดและสกัดไขมันด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์โดยแช่ตัวอย่างก่อนการสกัดนาน 60 นาที จะสกัดได้เนยเมล็ดมะม่วงได้สูงที่สุด โดยเมล็ดมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น โชคอนันต์ และน้ำดอกไม้จะมีปริมาณไขมันเป็นองค์ประกอบร้อยละ 7.25, 6.38 และ 5.84 และมีจุดหลอมเหลว 36.67 - 39.8 C โดยมีกรดโอเลอิกและกรดสเตียริกเป็นกรดไขมันที่เป็นองค์ประกอบหลักไขมันจากเมล็ดมะม่วงแก้วขมิ้นจะมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงสุด 61.33 mgAA/100g และมีความสามารถในการยับยั้งปฏิกิริยาของเอนไซม์ไทโรซิเนสสูงสุด (IC50) 0.47 mg/mL เนยเมล็ดมะม่วงที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของสี และ peroxide value เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาการเก็บรักษา 3 เดือน จึงต้องเติม Butylated hydroxytoluene 100 ppm และได้พัฒนาเนยเมล็ดมะม่วงรูปแบบเกล็ดเพื่อสะดวกต่อการใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางโดยการผสม carnauba wax ร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก ซึ่งจะสามารถเพิ่มจุดหลอมเหลวของเนยเมล็ดมะม่วงได้ถึง 6.66 C ส่งผลให้เนยเมล็ดมะม่วงมีความเสถียรระหว่างการเก็บรักษา ซึ่งผลิตภัณฑ์ Startup ingredients ทั้ง 3 ชนิด สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดประโยชน์เชิงหน้าที่ในการดูแลสุขภาพให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความหลากหลาย และเกิดผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 9 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 04-03-2568

แจ้งไฟล์หาย