คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใบตองกล้วยตานี

คำหลัก : กล้วยตานี ใบตอง ด้วงเต่ากินใบกล้วยม ไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทย ปุ๋ย การเก็บรักษา ภาชนะบรรจุ

ผู้วิจัย : อรณิชชา สุวรรณโฉม

ผู้ร่วมวิจัย : ปรางค์ทอง กวานห้อง, บุษบง มนัสมั่นคง, อารีรัตน์ พระเพชร, สุรศักดิ์ วัฒนพันธุ์สอน, ศิรกานต์ ศรีธัญรัตน์, คมจันทร์ สรงจันทร์, เสกสรรค์ วรรณกรี และชัยณรงค์ จันทร์แสนตอ

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 24 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใบตองกล้วยตานี ดำเนินการระหว่าง ปี 2559 - 2562 การศึกษาประสิทธิภาพการป้องกันกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วยทำลายใบตองกล้วยตานี โดยศึกษาประสิทธิภาพของสารป้องกันกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วย (Nodostoma viridipennis Motsch) ในห้องปฏิบัติการ กรรมวิธีที่ได้ผลดีสำหรับนำไปทดสอบในสภาพแปลงต่อ ได้แก่ ไส้เดือนฝอย 30 ล้านตัวต่อน้ำ 20 ลิตร ฟิโพรนิล และสารสกัดสะเดา ความเข้มข้น 50 ppm และเพิ่มความเข้มข้นของไส้เดือนฝอยเป็น 2 เท่า เป็นกรรมวิธีสุดท้าย การศึกษาประสิทธิภาพการป้องกันกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วยทำลายใบตองกล้วยตานีในสภาพแปลง ที่อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย พบว่า ที่อำเภอศรีสัชนาลัย การพ่นไส้เดือนฝอย 60 และ 30 ล้านตัวต่อน้ำ 20 ลิตร พบรอยทำลายบนใบตองกล้วยตานีน้อยที่สุดไม่แตกต่างกับการใช้ฟิโพรนิล ที่อำเภอสวรรคโลก การพ่นไส้เดือนฝอย อัตรา 60 ล้านตัวต่อน้ำ 20 ลิตร ทำให้พบรอยทำลายน้อยที่สุด ใช้ไส้เดือนฝอย 60 ล้านตัวต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ในการทดสอบเทคโนโลยีการกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วยที่เหมาะสมในการผลิตใบตองกล้วยตานี ดำเนินการระหว่างปี 2561 - 2562 ที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยทำการการศึกษาการทดสอบเทคโนโลยีการกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วยทำลายใบตองกล้วยตานีที่พ่นไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทยด้วยวิธีพ่นที่ใบ และการพ่นลงดิน ทั้งสองวิธีเปรียบเทียบกับวิธีเกษตรกรซึ่งไม่มีการพ่นสาร พบว่า การพ่นที่ใบให้ผลไม่แตกต่างกันกับไม่พ่น เช่นเดียวกันกับการพ่นลงดิน การพ่นทั้งสองวิธีมีต้นทุนค่าสาร 640 บาทต่อไร่ต่อครั้งเท่าๆ กัน ถ้าเกษตรกรผลิตใช้เองจะทำให้ต้นทุนลดลงเหลือ 160 ต่อไร่ต่อครั้ง การพ่นไส้เดือนฝอยกำจัดด้วงเต่ากินใบกล้วยมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร การทดสอบเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในการผลิตใบตองกล้วยตานี ดำเนินการทดลองในปี 2561 - 2562 ที่อำเภอสวรรคโลก ดำเนินการใส่ปุ๋ย 1 ครั้ง ปริมาณ 7.5 กิโลกรัมต่อไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 4 ครั้ง ได้ผลผลิต คุณภาพของใบตอง และรายได้ไม่แตกต่างกัน รายได้รวมของการเก็บเกี่ยวทั้ง 4 ครั้ง เท่ากับ 11,895 และ 11,939 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ซึ่งควรศึกษาการให้ธาตุอาหารอื่นๆ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม เพิ่มเติม การยืดอายุการเก็บรักษาใบตองกล้วยตานีดำเนินการในปี 2559 - 2560 โดยปี 2559 เป็นการศึกษาผลของอุณหภูมิต่ออายุการเก็บรักษาใบตองกล้วยตานีทำโดยการนำใบตองสดที่เก็บเกี่ยวในแต่ละฤดูกาล (หนาว ร้อน และฝน) นำไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2 5 10 15 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิแวดล้อม และในปี 2560 ศึกษาผลของบรรจุภัณฑ์ต่อคุณภาพการเก็บรักษาใบตองกล้วยตานีโดยการนำใบตองสดที่เก็บเกี่ยวในฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน มาบรรจุในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่าง และทำการทดลองเพิ่มเติมในช่วงการเก็บเกี่ยวฤดูร้อนและฤดูฝน โดยนำใบตองสดที่ผ่านการทำความสะอาดแล้ว บรรจุในบรรจุภัณฑ์แบบต่างๆ พบว่า การใช้อุณหภูมิต่ำ 5 องศาเซลเซียส เก็บรักษาใบตองสดได้นานที่สุด ใบตองที่เก็บเกี่ยวในฤดูหนาวของปี 2559 สามารถเก็บรักษาได้นานที่สุดถึง 30 วัน ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ใบตองที่ไม่บรรจุถุงมีแนวโน้มเก็บรักษาได้นานกว่าการบรรจุในถุง PP และ PE โดยสามารถเก็บได้นาน 30 20 และ 25 วัน ตามลำดับ เมื่อปรับปรุงสมบัติของถุง PP โดยการเจาะรูที่ถุง ถุง PP ที่เจาะรูขนาดรูเข็ม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 เซนติเมตร จำนวน 16 รู ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาใบตองสดเก็บเกี่ยวในฤดูร้อนและฤดูฝนได้นานสูงสุดถึง 23 และ 30 วัน ตามลำดับ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 7 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 04-03-2568

แจ้งไฟล์หาย