คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การผสมผสานการจัดการการผลิตเพื่อเพิ่มคุณภาพและลดการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลของสับปะรดผลสดเพื่อการส่งออก (พันธุ์สวีและพันธุ์MD2)

คำหลัก : สับปะรดผลสด คุณภาพ อาการไส้สีน้ำตาล แคลเซียม-โบรอน ซาลิซิลิกแอซิค

ผู้วิจัย : วรางคณา มากกำไร

ผู้ร่วมวิจัย : ทวีศักดิ์ แสงอุดม, มนตรี ปานตู และมัลลิกา นวลแก้ว

หน่วยงาน : สถาบันวิจัยพืชสวน และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 32 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การผลิตสับปะรดผลสดเพื่อการส่งออกผลผลิตต้องสม่ำเสมอและมีคุณภาพดีเมื่อถึงตลาดปลายทาง ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนและจัดการการผลิตที่เหมาะสมทั้งการเลือกพันธุ์ การดูแลรักษา และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว จึงได้ทำการศึกษาการจัดการการผลิตแบบผสมผสานเพื่อเพิ่มคุณภาพและลดการเกิดอาการไส้สีน้ำตาลของสับปะรดพันธุ์สวีและพันธุ์MD 2 ดำเนินการระหว่างตุลาคม 2559 ถึงกันยายน 2562 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีและสถาบันวิจัยพืชสวน มี 2 การทดลองย่อย วางแผนการทดลองแบบ RCB ทำ 5 ซ้ำ มี 4 กรรมวิธี คือ 1) ปลูกและดูแลรักษาตามเกษตรกร 2) ปลูกและดูแลรักษาตาม GAP สับปะรด + ให้แคลเซียมโบรอน 3) ปลูกและจัดการแบบผสมผสานและให้ปุ๋ยทางดิน + ให้แคลเซียม-โบรอน และ 4) ปลูกและจัดการแบบผสมผสานและให้ปุ๋ยทางระบบน้ำ + ให้แคลเซียม-โบรอน เมื่อเก็บเกี่ยววิเคราะห์คุณภาพผลผลิตและเก็บรักษาที่ 13±2 องศาเซลเซียส และนำผลมาวิเคราะห์คุณภาพหลังการเก็บรักษา 2 3 4 5 และ 6 สัปดาห์ และวางที่อุณหภูมิห้อง 1 วัน ผลการทดลองพันธุ์สวีพบว่า การเจริญเติบโตหลังปลูก 9 เดือน ไม่แตกต่างทางสถิติเช่นเดียวกัน ให้ผลผลิตระหว่าง 11.2 - 13 ตัน/ไร่ ซึ่งกรรมวิธีที่ 2 ให้ผลผลิตสูงสุด น้ำหนักต่อผล 1.11 - 1.22 กิโลกรัม คุณภาพผลด้าน Total Soluble Solids (TSS), Titratable Acidity (TA) วิตามินซี (ascorbic acid) และความแน่นเนื้อ หลังการเก็บรักษาแตกต่างกันทางสถิติบางสัปดาห์เช่นเดียวกัน แต่พันธุ์สวีมีปริมาณวิตามินซีต่ำกว่าพันธุ์MD2 ประมาณ 4 เท่า และมีผลที่เกิดอาการไส้สีน้ำตาลหลังการเก็บรักษา 2 สัปดาห์ สูง 55 - 60% ส่วนพันธุ์MD2 พบว่าทุกกรรมวิธีมีการเจริญเติบโตหลังปลูกใกล้เคียงกันและไม่มีความแตกต่างทางสถิติ ด้านผลผลิตให้ผลผลิตระหว่าง 16.6 - 18.4 ตัน/ไร่ น้ำหนักต่อผล 1.54 - 1.67 กิโลกรัม โดยกรรมวิธีที่ 3 ให้ผลผลิตสูงสุด ส่วนคุณภาพผลด้าน TSS และ TA วิตามินซีและความแน่นเนื้อหลังการเก็บรักษาแตกต่างกันทางสถิติ ในบางสัปดาห์และไม่พบการเกิดอาการไส้สีน้ำตาล การจัดการแปลงแบบผสมผสานไม่มีผลต่อการลดอาการไส้สีน้ำตาลพันธุกรรมมีผลมากกว่า ดังนั้นการผลิตสับปะรดผลสดต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมเพื่อลดปัญหาอาการไส้สีน้ำตาลส่วนการจัดการแปลงแบบผสมผสานช่วยในการชะลอหรือลดอาการไส้สีน้ำตาลของผลิตผลหลังการเก็บรักษาในพันธุ์สวีได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 13 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 06-03-2568

แจ้งไฟล์หาย