คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

อัตราปุ๋ยที่เหมาะสมต่อการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ดแมงลัก

คำหลัก :

ผู้วิจัย : อารีรัตน์ พระเพชร

ผู้ร่วมวิจัย : อรณิชชา สุวรรณโฉม, สุรศักดิ์ วัฒนพันธุ์สอน และเสกสรรค์ วรรณกรี

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 23 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

           การปลูกแมงลักเพื่อให้ได้ผลผลิตเมล็ดที่มีคุณภาพนั้น การใส่ปุ๋ยในอัตราที่เหมาะสมย่อมแตกต่างไปจากการปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตทางใบที่เกษตรเคยปฏิบัติอยู่ดั้งเดิม ดังนั้นจึงได้ทำการศึกษาอัตราปุ๋ยที่เหมาะสมต่อการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ดแมงลัก เพื่อหาอัตราปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่เหมาะสม เป็นเทคโนโลยีแนะนำแก่เกษตรกรผู้ปลูก ทำการทดลองเป็นเวลา 2 ปี คือ ฤดูปลูกปี 2561 และ 2562 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย โดยวางแผนการทดลองแบบ Randomize Complete Block ประกอบดัวย 6 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ดังนี้ กรรมวิธีที่ 1 ใส่ปุ๋ย อัตรา 6-3-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ กรรมวิธีที่ 2 ใส่ปุ๋ย อัตรา 6-5-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ กรรมวิธีที่ 3 ใส่ปุ๋ย อัตรา 9-3-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ กรรมวิธีที่ 4 ใส่ปุ๋ย อัตรา 9-5-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ กรรมวิธีที่ 5 ใส่ปุ๋ย อัตรา 13-3-3 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ (วิธีเกษตรกร ) และกรรมวิธีที่ 6 ไม่มีการใส่ปุ๋ย (control) ผลการทดลองพบว่า การใส่ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ในอัตรา 6-5-6 มีความสูงแตกต่างกันทางสถิติมากที่สุด คือ 93.73 เซนติเมตร แต่ไม่มีผลต่อความกว้างทรงพุ่ม การใสปุ๋ยอัตรา 9-3-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ ทำให้มีจำนวนช่อดอกต่อต้นมากที่สุด คือ 9.15 ช่อ ในขณะที่การใส่ปุ๋ยแบบเกษตรกร คือ 13-3-3 และไม่มีการใสปุ๋ยเลย มีช่อดอกต่อต้นน้อยที่สุด แต่ปุ๋ยไม่มีผลต่อจำนวนดอกต่อช่อ จำนวนวันออกดอกและอายุเก็บเกี่ยว ด้านผลผลิตและคุณภาพเมล็ด การใส่ปุ๋ยแต่ละกรรมวิธีให้ผลผลิตเมล็ดรวมที่ความชื้น 8 เปอร์เซ็นต์ ไม่แตกต่างกัน แต่การใส่ปุ๋ยอัตรา 9-5-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ มีผลผลิตเมล็ดดีสูงสุด 59.13 กิโลกรัมต่อไร่ และมีเมล็ดดีคิดเป็นร้อยละ 78 โดยน้ำหนัก ซึ่งมากกว่าทุกอัตราปุ๋ย

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 10 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 07-03-2568

แจ้งไฟล์หาย