คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

พันธุ์ลาเวนเดอร์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในระดับต่างๆ

คำหลัก : พันธุ์ น้ำมันหอมระเหย องค์ประกอบทางเคมี ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลาเวนเดอร์

ผู้วิจัย : อนุภพ เผือกผ่อง

ผู้ร่วมวิจัย : สุพัฒธณกิจ โพธิ์สว่าง,ปฏิพัตร์ ใจปิน,อนันต์ ปัญญาเพิ่ม,เกษม ทองขาว,เรวัต แช่ย้าง,กมล กัลยาณพงศ์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 74 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การทดสอบพันธุ์ลาเวนเดอร์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในระดับต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อหาพันธุ์ลาเวนเดอร์ที่เหมาะสมสามารถปลูกในพื้นที่ระดับต่างๆ และเพื่อศึกษาคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยของดอกลาเวนเดอร์ ตลอดจนศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของลาเวนเดอร์วางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 6 กรรมวิธี (พันธุ์) ได้แก่ 1) Ellagance Ice 2) Ellagance Pink 3) Lavance Purple 4) Spanish Eyes 5) Bandera Purple 6) Bandera Pink ใน 4 สถาน ที่ที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่างกัน ได้แก่ 1) ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย (ดอยตุง: 900 ม.) 2) ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง: 1,200 ม.) 3) ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง : 1,400 ม.) และ 4) พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ (ดอยอินทนนท์ : 2,000 ม.) ดำเนินการทดลองในปี 2561 - 2562 พบว่า ลาเวนเดอร์พันธุ์Spanish eyes มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพันธุ์อื่นๆ มีการเจริญเติบโตเฉลี่ย 2 ปี ในด้านความสูง ขนาดทรงพุ่ม จำนวนช่อดอก ความยาวก้านและช่อดอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางก้านดอก มากกว่าและออกเร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นลาเวนเดอร์พันธุ์Spanish eyes เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมสามารถปลูกในทุกระดับความสูง โดยเฉพาะพื้นที่ขุนวาง (1,400 ม.) มีน้ำหนักสดของช่อดอกเฉลี่ยมากที่สุด 3.76 กก.ต่อพื้นที่ 1 ตร.ม. เมื่อนำทดสอบการสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ (Steam Distillation) พบว่า พันธุ์Lavance Purple ที่ปลูกในพื้นที่แม่จอนหลวง (1,200 ม.) มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันหอมระเหยเฉลี่ยมากที่สุด คือ 0.79% อย่างไรก็ตามเมื่อนำมาหาปริมาณน้ำมันหอมระเหย พบว่า พันธุ์ Spanish Eyes ที่ปลูกในพื้นที่ขุนวาง (1,400 ม.) มีปริมาณน้ำมันหอมระเหยเฉลี่ยมากที่สุด 0.68 กก. ต่อพื้นที่ 1 ตร.ม. และมีองค์ประกอบทางเคมีและปริมาณขององค์ประกอบทางเคมีที่สูงเหมือนและแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์พบว่า พันธุ์Bandera Purple และ Bandera Purple พบสาร 1,8-Cineole ในปริมาณที่สูงกว่าสารชนิดอื่นๆ คือ 65.45 และ 52.6% ตามลำดับ พันธุ์Ellagance Pink และ Ellagance Ice พบสาร cis-Ocimene และ linalool ในปริมาณที่สูงกว่าสารชนิดอื่นๆ คือ 17.86 17.82 % และ 14.13 14.11% ตามลำดับ พันธุ์Lavance Purple พบสาร Sabinene ในปริมาณที่สูงกว่าสารชนิดอื่นๆ คือ 10.25% พันธุ์Spanish Eyes พบสาร Phenol ในปริมาณที่สูงกว่าสารชนิดอื่นๆ คือ 27.91% ด้านลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของลาเวนเดอร์ สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพันธุ์Lavandula angustiforia มีพันธุ์Ellagance Ice Ellagance Pink Lavance Purple และกลุ่มพันธุ์Lavandula stoechas มีพันธุ์Bandera Purple, Bandera Pink กลุ่มพันธุ์Lavandula multifida มีพันธุ์Spanish Eyes

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 24 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 07-03-2568

แจ้งไฟล์หาย