คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การจัดการแคลเซียมเพื่อรักษาคุณภาพผลไม้หลังการเก็บเกี่ยว

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ภาณุมาศ โคตรพงศ์

ผู้ร่วมวิจัย : ทิวาพร ผดุง

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร และกองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 25 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การจัดการแคลเซียมเพื่อรักษาคุณภาพผลไม้หลังการเก็บเกี่ยวในผลไม้ 2 ชนิด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและชมพู่พันธุ์ทับทิมจันทร์ โดยทำการคัดเลือกต้นมะม่วงที่ลักษณะทรงพุ่มและการติดผลที่สม่ำเสมอโดยแบ่งออกเป็น 3 กรรมวิธี ดังนี้ 1) มะม่วงที่ไม่ได้รับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอน (ชุดควบคุม) 2) กรรมวิธีที่มีการจัดการแคลเซียมก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนความเข้มข้น 0.5% ในช่วง 30 45 และ 60 วันหลังดอกบาน 3) กรรมวิธีที่มีการจัดการแคลเซียมก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นธาตุอาหารแคลเซียมโบรอนก่อนการเก็บเกี่ยวร่วมกับการจัดการแคลเซียมหลังการเก็บเกี่ยวโดยการจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2% หลังการเก็บเกี่ยว นาน 5 นาที จากนั้นทำการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส นาน 28 วัน และตรวจวัดคุณภาพผลมะม่วงทุก 7 วัน พบว่า มะม่วงที่ได้รับรับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนมีน้ำหนักผลสูงกว่ามะม่วงที่ไม่ได้รับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอน ส่วนคุณภาพของผลมะม่วงด้านการสูญเสียน้ำหนักผลสดการเปลี่ยนแปลงสีเปลือก ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ ปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ และปริมาณวิตามินซีของผลมะม่วงที่ได้รับแคลเซียมโบรอน และชุดมะม่วงที่ได้รับแคลเซียมโบรอนร่วมกับจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ไม่มีความแตกต่างกันกับชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) แต่พบว่ามะม่วงที่ได้รับแคลเซียมโบรอน 0.5% ก่อนการเก็บเกี่ยวมีความแน่นเนื้อและปริมาณเพคตินทั้งในเปลือกและเนื้อมะม่วงสูงกว่ามะม่วงชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และมะม่วงที่ได้รับธาตุอาหารแคลเซียมโบรอน 0.5% ร่วมกับจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2% หลังการเก็บเกี่ยว พบว่าคุณภาพของผลมะม่วงไม่มีแตกต่างกันกับชุดมะม่วงที่ได้รับแคลเซียมโบรอนก่อนการเก็บเกี่ยว สำหรับในการทดลองในชมพู่โดยทำการคัดเลือกต้นชมพู่ที่ลักษณะทรงพุ่มและการติดผลที่สม่ำเสมอ โดยแบ่งจำนวนต้นชมพู่ออกเป็น 3 กรรมวิธีเช่นเดียวกับการทดลองในมะม่วง ดังนี้ 1) ชมพู่ที่ไม่ได้รับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอน (ชุดควบคุม) 2) กรรมวิธีที่มีการจัดการแคลเซียมก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนความเข้มข้น 0.5% ในช่วง 30 45 และ 60 วันหลังดอกบาน 3) กรรมวิธีที่มีการจัดการแคลเซียมก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นธาตุอาหารแคลเซียมโบรอนก่อนการเก็บเกี่ยวร่วมกับการจัดการแคลเซียมหลังการเก็บเกี่ยวโดยการจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2% หลังการเก็บเกี่ยว นาน 5 นาที จากนั้นทำการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส นาน 15 วัน และตรวจวัดคุณภาพชมพู่ทุก 3 วัน พบว่าชมพู่ที่ได้รับรับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนมีน้ำหนักผล สูงกว่าชมพู่ที่ไม่ได้รับธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอน ส่วนคุณภาพของผลชมพู่ด้านการเปลี่ยนแปลงสีผล ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ ปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ และปริมาณวิตามินซีของผลชมพู่ที่ได้รับแคลเซียมโบรอน และชุดชมพู่ที่ได้รับแคลเซียมโบรอนร่วมกับจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ไม่มีความแตกต่างกันกับชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) แต่พบว่าชมพู่ที่ได้รับแคลเซียมโบรอน 0.5% ก่อนการเก็บเกี่ยวมีความแน่นเนื้อผลสูงกว่าชมพู่ในชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากการทดลองนี้ การจัดการแคลเซียมก่อนการเก็บเกี่ยวด้วยการฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนความเข้มข้น 0.5% ร่วมกับจุ่มสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2% หลังการเก็บเกี่ยว นาน 5 นาทีสามารถรักษาคุณภาพมะม่วงและชมพู่ได้นานขึ้นและมีคุณภาพดีจึงจะนำไปขยายผลสู่เกษตรกรต่อไป

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 12 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-03-2568

แจ้งไฟล์หาย