คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการรักษาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าไม้ตัดดอกเพื่อการส่งออก

คำหลัก :

ผู้วิจัย : งามพิศ สุดเสน่ห์

ผู้ร่วมวิจัย : ศิรกานต์ ศรีธัญรัตน์,ภาณุมาศ โคตรพงศ์,คมจันทร์ สรงจันทร์

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 47 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การศึกษาเทคโนโลยีการรักษาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าไม้ตัดดอกเพื่อการส่งออกในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและประเมินการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวของไม้ตัดดอก ศึกษาดัชนีการเก็บเกี่ยวและอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาไม้ตัดดอกหลังการเก็บเกี่ยว และทดสอบประสิทธิภาพสารละลายเคมีในการยืดอายุการปักแจกันไม้ตัดดอก 2 ชนิด คือ ดอกดาหลาและดอกกระเจียวส้ม โดยทำการทดลองที่อาคารปฏิบัติการวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวพืชสวน กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร ระหว่างเดือนตุลาคม 2558 ถึงเดือนกันยายน 2562 โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 การทดลองย่อย คือ การศึกษาในดอกดาหลาและดอกกระเจียวส้ม การประเมินการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวของดอกดาหลา โดยศึกษาขั้นตอนการเก็บเกี่ยว การจัดการในโรงคัดบรรจุ การขนส่งไปยังตลาดในประเทศ และการขนส่งไปยังตลาดต่างประเทศ จากการศึกษาพบปริมาณการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวดอกดาหลาในขั้นตอนการขนส่งไปยังตลาดในประเทศมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 50.0 และการจำลองการส่งออก คิดเป็นร้อยละ 47.9 เมื่อศึกษาดัชนีการเก็บเกี่ยวและอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาดอกดาหลา พบว่า การเก็บเกี่ยวดอกดาหลาที่ระยะดอกบาน 50% และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน 14 วัน และกลีบประดับยังสามารถพัฒนาต่อไปได้ เมื่อทดสอบประสิทธิภาพสารละลายเคมีในการยืดอายุการปักแจกันดอกดาหลา พบว่าดอกดาหลาที่แช่ก้านดอกในสารละลายกรดซิตริก ความเข้มข้น 400 ppm เป็นเวลา 30 นาที ก่อนนำมาปักแจกันในน้ำกรอง มีอายุการปักแจกันนานที่สุด 6 วัน ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส การทดสอบสารละลาย holding สำหรับปักแจกันตลอดอายุการใช้งาน พบว่า ดอกดาหลาที่ปักแจกันในสารละลาย 8-HQS 200 ppm ร่วมกับ sucrose 2.0% pH3 มีอายุการปักแจกันนานที่สุด 7 วัน และยังพบว่ากลีบประดับยังสามารถพัฒนาและบานต่อไปได้ สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพสารละลายเคมีที่ใช้ในการยืดอายุการปักแจกันดอกดาหลาโดยนำสารละลายที่ดีที่สุดจากการทำ pulsing และ holding มาทดสอบร่วมกัน พบว่า ดอกดาหลาที่ปักแจกันในสารละลาย 8-HQS 200 ppm ร่วมกับ sucrose 2.0% pH3 สามารถยืดอายุการปักแจกันได้นานขึ้น 8 วัน และกลีบประดับยังสามารถพัฒนาต่อไปได้
          การประเมินการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวของดอกกระเจียวส้ม พบการสูญเสียมากที่สุดในขั้นตอนการขนส่งไปยังตลาดในประเทศคิดเป็นร้อยละ 73.3 และในขั้นตอนการจัดการในโรงคัดบรรจุคิดเป็นร้อยละ 69.4 ในการศึกษาดัชนีการเก็บเกี่ยวและอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาดอกกระเจียวส้ม พบว่า การเก็บเกี่ยวดอกกระเจียวส้มที่ระยะดอกบาน 50% และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน 11 วัน เมื่อทดสอบประสิทธิภาพสารละลายเคมีในการยืดอายุการปักแจกันดอกกระเจียวส้มพบว่า การทำ pulsing โดยแช่ก้านดอกในสารละลายกรดซิตริก ความเข้มข้น 400 ppm ระยะเวลา 30 นาที ก่อนนำมาปักแจกันในน้ำกรอง ดอกกระเจียวส้มมีอายุการปักแจกันนานที่สุด 12 วัน ส่วนการทดสอบสารละลาย holding พบว่า ดอกกระเจียวส้มปักแจกันในสารละลาย 8-HQS 200 ppm ร่วมกับ sucrose 2.0% มีอายุการปักแจกันนานที่สุด 10 วัน และเมื่อทดสอบประสิทธิภาพสารละลาย pulsing และ holding ร่วมกัน พบว่า ดอกกระเจียวส้มแช่ก้านดอกในสารละลายกรดซิตริก ความเข้มข้น 400 ppm ระยะเวลา 30 นาที ก่อนนำมาปักแจกันในน้ำกรอง สามารถยืดอายุการปักแจกันได้นานขึ้น 17 วัน และดอกจริงยังสามารถบานและพัฒนาต่อไปได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 21 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-03-2568

แจ้งไฟล์หาย