คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมะม่วงหิมพานต์ในพื้นที่จังหวัดตราด

คำหลัก : มะม่วงหิมพานต์

ผู้วิจัย : สุชาดา ศรีบุญเรือง

ผู้ร่วมวิจัย : หฤทัย แก่นลา, เพ็ญจันทร์ วิจิตร, อรุณี แท่งทอง และอุมาพร รักษาพราหมณ์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 26 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การวิจัยทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมะม่วงหิมพานต์ในพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อหาเทคโนโลยีการผลิตมะม่วงหิมพานต์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ การทดสอบทำในพื้นที่แปลงเกษตรกรจังหวัดตราด จำนวน 12 ราย ระหว่างปี 2559 - 2562 โดยทดสอบการใช้ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร (ใช้ปุ๋ย 13-13-21) เปรียบเทียบกับการใส่ปุ๋ยเคมีตามกรรมวิธีของเกษตรกร (ใช้ปุ๋ย 15-15-15) ผลการทดสอบพบว่ากรรมวิธีแนะนำ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 313 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 293 กิโลกรัม/ไร่ คิดเป็นร้อยละ 7 กรรมวิธีแนะนำมีรายได้และผลตอบแทนมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร เฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 14,480 และ 9,450 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ส่วนกรรมวิธีเกษตรกร มีรายได้และผลตอบแทน เฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 13,509 และ 8,437 บาท/ไร่ ตามลำดับ ส่งผลทำให้ค่า BCR ของกรรมวิธีแนะนำสูงกว่ากรรมวิธีเกษตรกร เฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.9 และ 2.7 ตามลำดับ ซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุนส่วนข้อมูลด้านคุณภาพผลผลิตของมะม่วงหิมพานต์ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ พบว่ากรรมวิธีแนะนำ มีค่าน้ำหนักเฉลี่ย 100 เมล็ดเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 673 กรัม ซึ่งมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ให้ค่าน้ำหนักเฉลี่ย 100 เมล็ด 3 ปี เท่ากับ 642 กิโลกรัม/ไร่ คิดเป็นร้อยละ 5 และกรรมวิธีแนะนำ ทำให้คุณภาพของผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร โดยกรรมวิธีแนะนำ มีค่าเฉลี่ยร้อยละเมล็ดดีต่อ 100 เมล็ดเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 74 เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ให้ค่าเฉลี่ยร้อยละเมล็ดดีต่อ 100 เมล็ดเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 65 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นร้อยละ 9 และกรรมวิธีแนะนำมีค่าจำนวนเมล็ดต่อกิโลกรัมดีกว่ากรรมวิธีของเกษตรกร โดยกรรมวิธีแนะนำ มีค่าจำนวนเมล็ดต่อกิโลกรัมเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 154 เม็ด/กิโลกรัม ส่วนกรรมวิธีเกษตรกร มีค่าจำนวนเมล็ดต่อกิโลกรัมเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 162 เม็ด/กิโลกรัม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากรรมวิธีแนะนำมีขนาดเม็ดที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีน้ำหนักดีกว่ากรรมวิธีเกษตรกร ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภค

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 15 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 13-03-2568

แจ้งไฟล์หาย