คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยในพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมเขตอาศัยน้ำฝนจังหวัดมหาสารคาม

คำหลัก :

ผู้วิจัย : ว่าที่ร้อยตรีอนุชา เหลาเคน

ผู้ร่วมวิจัย : นิพนธ์ ภาชนะวรรณ และจิระ อะสุรินทร์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมหาสารคาม

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 26 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การพัฒนาและขยายผลเทคโนโลยีการผลิตอ้อยในพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมเขตอาศัยน้ำฝนจังหวัดมหาสารคาม มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลเทคโนโลยีการผลิตอ้อยจากผลงานที่ได้ศึกษาวิจัยที่มีแนวโน้มว่าดีและเกษตรกรยอมรับ ได้แก่ เรื่องพันธุ์อ้อย การทดสอบการจัดการดินปุ๋ยการผลิตอ้อย การจัดการแปลงพันธุ์สะอาด และการป้องกันก้าจัดโรคใบขาวอ้อยที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยได้ดำเนินการจัดทำแปลงต้นแบบเพื่อทดสอบขยายผลเทคโนโลยีการผลิตอ้อยและถ่ายทอดสู่เกษตรกร ระหว่างเดือนตุลาคม 2561 - กันยายน 2562 ในพื้นที่เป้าหมายอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม พบว่าอ้อยในแปลงต้นแบบมีผลผลิตเฉลี่ย 14.67 ตันต่อไร่ มีจำนวนกอเฉลี่ย 1,996 ต่อไร่ จำนวนลำเฉลี่ย 11,559 ลำต่อไร่ ความยาวลำเฉลี่ย 255 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำเฉลี่ย 2.74 เซนติเมตร และพบว่าการปลูกแบบชำข้อตาเป็นต้นกล้าอ้อยมีผลทำให้อ้อยมีองค์ประกอบผลผลิต และผลผลิตอ้อยมากกว่าการปลูกแบบวางท่อนลำอ้อย แต่มีค่าความหวานใกล้เคียงที่ 24.42 และ 23.98 %Brix และจากการสำรวจโรคใบขาวอ้อยในแปลงไม่พบโรคใบขาวอ้อยในทั้ง 3 แปลง ท่อนพันธุ์ที่ได้จากแปลงของเกษตรกรที่ร่วมดำเนินการทั้ง 3 แปลง สามารถนำไปเป็นท่อนพันธุ์ได้ ในระหว่างการจัดทำแปลงต้นแบบได้ถ่ายทอดผลการึกษาวิจัยเทคโนโลยีการผลิตอ้อยให้แก่เกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง ณ แปลงเกษตรกรผู้ร่วมดำเนินงานอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม หลังจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีได้ประเมินความพึงพอใจของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรร้อยละ 65 ปลูกอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 รองลงมาร้อยละ 8 ปลูกอ้อยพันธุ์LK92-11 จากการดำเนินงานเกษตรกรร้อยละ 80 มีความเห็นว่าอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกในสภาพนามากที่สุด ปัญหาที่เกษตรกรคิดว่ามีผลต่อผลผลิตอ้อยและรายได้ เห็นว่าราคาอ้อยตกต่ำเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 46 ปัญหาการขาดแคลนน้ำร้อยละ 25 ปัญหาโรคใบขาวอ้อยร้อยละ 19 และขาดแคลนแรงงานการผลิตอ้อย ร้อยละ 15 ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมประชุม เสวนา มีความสนใจและพึงพอใจเทคโนโลยีที่ได้รับถ่ายทอดคิดเป็นร้อยละ 95 และจากการติดตามข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี พบว่าเกษตรกรร้อยละ 85 นำเทคโนโลยีการใช้พันธุ์อ้อยที่เหมาะสมในพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าวไปใช้เกษตรกรร้อยละ 40 นำเทคโนโลยีการใช้ผสมปุ๋ยใช้เองตามค่าวิเคราะห์ดินไปใช้ และเกษตรกรร้อยละ 30 นำเทคโนโลยีการจัดทำแปลงพันธุ์สะอาดไปใช้ส่งผลให้เกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคามที่มีพื้นที่นาไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าวและต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นอ้อยสามารถนำผลการศึกษาวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มผลผลิตอ้อยได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 8 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-03-2568

แจ้งไฟล์หาย