คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ผลของวัสดุอินทรีย์ที่มีแทนนินเป็นองค์ประกอบในการยับยั้งกระบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification) ของปุ๋ยไนโตรเจน

คำหลัก : วัสดุอินทรีย์ แทนนิน กระบวนการไนตริฟิเคชั่น เปลือกมังคุด

ผู้วิจัย : ศรีสุดา รื่นเจริญ

ผู้ร่วมวิจัย : พีรพงษ์ เชาวนพงษ์, ปฏิมาภรณ์ จินจาคาม, ทิพวรรณ แก้วหนู, กมลชนก เจริญศรี และนงลักษ์ ปั้นลาย

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และกองวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 27 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ผลของวัสดุอินทรีย์ที่มีแทนนินเป็นองค์ประกอบในการยับยั้งกระบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification) ของปุ๋ยไนโตรเจนในดินร่วนเหนียว และดินร่วนปนทรายด้วยวิธีการบ่มดิน ดำเนินการทดลองในห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร วางแผนการทดลองแบบ Complete Randomized Design (CRD) 4 ซ้ำ 6 กรรมวิธี คือ 1) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 2) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) + แทนนิน 0.1 เปอร์เซ็นต์ 3) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) + แทนนิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ 4) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) + แทนนิน 0.3 เปอร์เซ็นต์ 5) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) + แทนนิน 0.4 เปอร์เซ็นต์ และ 6) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) + แทนนิน 0.5 เปอร์เซ็นต์ พบว่า ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ที่มีการเคลือบหรือคลุกด้วยแทนนินมีการปลดปล่อยอนินทรีย์ไนโตรเจน (แอมโมเนียมไนโตรเจนร่วมกับไนเทรตไนโตรเจน) และอัตราการปลดปล่อยอนินทรีย์ไนโตรเจน (mineralization) ต่ำกว่าปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ที่ไม่มีการเคลือบหรือคลุกด้วยแทนนินทั้งในดินร่วนเหนียวและดินร่วนปนทราย และจากผลการทดลองดังกล่าวได้นำเปลือกมังคุดบด มาทดลองในสภาพแปลงทดลองด้วยการปลูกข้าวโพดหวานบนพื้นที่ดินร่วนเหนียว และพื้นที่ดินร่วนทราย ปีที่ 1 ในพื้นที่ดินเหนียว ที่ศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี จังหวัดลพบุรี วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 4 ซ้ำ 5 กรรมวิธี พบว่า การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตข้าวโพดหวานสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 10-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 0-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และในพื้นที่ดินร่วนปนทราย แปลงเกษตรกรตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบว่า การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 10-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ที่คลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 0-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ปีที่ 2 วางแผนการทดลองแบบ Split plot in RCB จำนวน 3 ซ้ำ ประกอบด้วยปัจจัยหลัก (Main plot) เปลือกมังคุด จำนวน 3 กรรมวิธี ปัจจัยรอง (Sub plot) ปุ๋ยเคมีจำนวน 4 กรรมวิธีพบว่า ในพื้นที่ดินเหนียว ปัจจัยหลักไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติโดยการคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การไม่คลุกเปลือกมังคุดบด และการคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 15.78 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจัยรองมีความแตกต่างทางสถิติของการใส่ปุ๋ย โดยการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา คือ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-5 10-5-5 และ 0-5-5 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และในพื้นที่ดินร่วนปนทรายปัจจัยหลักไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติโดยการไม่คลุกเปลือกมังคุดให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา คือ การคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 15.78 กิโลกรัมต่อไร่ และการคลุกเปลือกมังคุดบดอัตรา 3.22 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจัยรองมีความแตกต่างกันทางสถิติของการใส่ปุ๋ย โดยการใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การใส่ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-5-10 10-5-10 และ 0-5-10 N-P2O5-K2O กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ
          สรุปได้ว่าการใช้เปลือกมังคุดบดคลุกร่วมกับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 25 เปอร์เซ็นต์ ตามคำแนะนำการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ให้ผลผลิตใกล้เคียงกับคำแนะนำการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพียงอย่างเดียว

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 11 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-03-2568

แจ้งไฟล์หาย