คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีบำบัดดินเพื่อลดการดูดซึมธาตุแคดเมียมของข้าวในพื้นที่การเกษตรที่ปนเปื้อนแคดเมียม

คำหลัก :

ผู้วิจัย : แววตา พลกุล

ผู้ร่วมวิจัย : วนิดา โนบรรเทา, ศราริน กลิ่นโพธิ์กลับ และอนันต์ ทองภู

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 34 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ศึกษาเทคโนโลยีบำบัดดินเพื่อลดการดูดซึมธาตุแคดเมียมของข้าวในพื้นที่การเกษตรที่ปนเปื้อนแคดเมียม โดยดำเนินการเก็บตัวอย่างดินนาข้าวที่ปนเปื้อนแคดเมียม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่มีปริมาณแคดเมียม13.2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่อนุญาตให้พึงมีได้ในดินทำการเกษตร คือ 3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม นำมาทดลองในกระถางและปลูกข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เป็นพืชทดลอง โดยใส่สารแมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) อัตรา 3 6 9 และ 12 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการทดลองพบว่า การใส่สารแมกนีเซียมออกไซด์สามารถลดการดูดซึมแคดเมียมเข้าไปสะสมในเมล็ดลงได้ โดยมีปริมาณแคดเมียมในเมล็ดข้าวเฉลี่ย 0.35 - 0.42 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ทุกกรรมวิธีไม่แตกต่างกันทางสถิติซึ่งเกณฑ์มาตรฐานของ Codex ที่ยอมให้ปนเปื้อนในเมล็ดข้าวไม่เกิน 0.4 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และพบว่ากรรมวิธีที่ไม่ใส่สารแมกนีเซียมออกไซด์ให้ผลิตข้าวสูงสุด คือ 21.3 กรัมต่อกระถาง รองลงมา คือ การใส่สารแมกนีเซียมออกไซด์ 3 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิต 20.4 กรัมต่อกระถาง ซึ่งทุกกรรมวิธีไม่แตกต่างกันทางสถิติ และได้เลือกอัตราของแมกนีเซียมออกไซด์ไปดำเนินการทดลองในแปลงที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยวางแผนการทดลองแบบ RCB 4 กรรมวิธีๆ ละ 5 ซ้ำ โดยใส่แมกนีเซียมออกไซด์อัตรา 9 12 และ 14 กิโลกรัมต่อไร่ และไม่ใส่แมกนีเซียมออกไซด์ พบว่าการใส่แมกนีเซียมออกไซด์ทุกอัตรา มีปริมาณแคดเมียมในเมล็ดข้าวอยู่ในช่วง 0.062 - 0.083 ซึ่งไม่แตกต่างกันทางสถิติ และพบว่าปริมาณแคดเมียมมีการสะสมสูงสุดในส่วนราก รองลงมา คือ ส่วนฟาง ส่วนเมล็ด และส่วนแกลบ ตามลำดับ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 12 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-03-2568

แจ้งไฟล์หาย