คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เครื่องเกี่ยวงาแบบสะพาย

คำหลัก : งา เครื่องจักรกลการเกษตร

ผู้วิจัย : ศิริรัตน์ กริชจนรัช

ผู้ร่วมวิจัย : พินิจ จิรัคคกุล,อรอนงค์ วรรณวงษ์,สาคร รจนัย,สมหมาย วังทอง,จำลอง กกรัมย์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 45 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

           การศึกษาและพัฒนาเครื่องเกี่ยวงาแบบสะพาย ซึ่งดัดแปลงจากเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายให้มีความเหมาะสมกับการเกี่ยวต้นงา โดยวางแผนการทดลองแบบ RCB มี 5 ซ้ำ 4 กรรมวิธี ได้แก่ 1. ใบมีดแบบสี่เหลี่ยมแบน 2. ใบมีดแบบกลมฟันเลื่อย (วงเดือน) 3. ใบมีดแบบกลมแฉก และ 4. เกี่ยวโดยใช้แรงงานคน (เคียวเกี่ยวข้าว) ทดสอบเกี่ยวทั้งในพันธุ์ที่มีการแตกกิ่ง (งาแดงพันธุ์อุบลราชธานี1) และพันธุ์ที่ไม่มีการแตกกิ่ง (งาขาวพันธุ์อุบลราชธานี2) โดยทั้งสองพันธุ์มีการปลูกแบบหว่าน และการปลูกแบบแถว (50 x 10 เซนติเมตร) พบว่า การปลูกแบบหว่าน (จำนวนต้นในแปลง 80,872 - 83,363 ต้นต่อไร่) เมื่อใช้เคียวเกี่ยว (แรงงานคน 1 คน) ใช้เวลานานที่สุด คือ 23.4 ชั่วโมง ส่วนการปลูกแบบแถว (จำนวน 25,059 - 25,583 ต้นต่อไร่) ใช้เวลา 16.3 ชั่วโมง ขณะที่การเกี่ยวโดยใช้เครื่องเกี่ยวงาแบบสะพาย ในแปลงที่ปลูกแบบหว่าน ใบมีดทุกแบบ ใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวไม่แตกต่างกัน (4.7 - 5.2 ชั่วโมง) แต่ในแปลงที่ปลูกแบบแถว ใบมีดแบบสี่เหลี่ยมแบนและแบบวงเดือน จะใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวเร็วที่สุด (2.0 - 2.3 ชั่วโมง) ขณะที่ใบมีดแบบสามแฉกใช้เวลานานกว่า (3.6 ชั่วโมง) การเกี่ยวโดยใช้เครื่องเกี่ยวงาแบบสะพายมีค่าใช้จ่ายในการตัดน้อยกว่าเปรียบเทียบกับการใช้แรงงานคน โดยในแปลงที่ปลูกแบบหว่านใช้แรงในการเก็บเกี่ยว 1.17 - 1.29 แรง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไร่ละ 351 - 387 บาท ขณะที่การตัดโดยใช้แรงคนเกี่ยว ใช้แรง 5.84 แรง และมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไร่ละ 1,752 บาท ส่วนในแปลงที่ปลูกแบบแถว ใบมีดแบบสี่เหลี่ยมแบนและวงเดือน ใช้แรงงานน้อยที่สุด คือ 0.50 - 0.56 แรง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไร่ละ 150 - 168 บาท ขณะที่ใบมีดแบบสามแฉกใช้แรงงานมากกว่า (0.89 แรง) และมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไร่ละ 267 บาท ถ้าตัดโดยใช้แรงคนเกี่ยว ใช้แรง 3.96 แรง และมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ไร่ละ 1,188 บาท ดังนั้น การใช้เครื่องเกี่ยวงาที่มีการแตกกิ่ง (งาแดง อบ.1) ช่วยให้ประหยัดแรงงานและลดต้นทุนในการเกี่ยวงาที่ปลูกแบบหว่าน ได้ถึง 79 และ 87% ในแปลงที่ปลูกแบบแถว แต่หากเกี่ยวงาที่ไม่มีการแตกกิ่ง (งาขาว อบ.2) ช่วยให้ประหยัดแรงงานและลดต้นทุนในการเกี่ยวงาที่ปลูกแบบหว่านได้ถึง 81 และ 84% ในแปลงที่ปลูกแบบแถว แต่ไม่ควรใช้ใบมีดแบบสามแฉกในการเกี่ยวงาที่ปลูกแบบแถว

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 24 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-03-2568

แจ้งไฟล์หาย