คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การพัฒนาและตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีวิเคราะห์สารพิษตกค้าง เมทอกซีฟีโนไซด์ (methoxyfenozide) ทีบูฟีโนไซด์ (tebufenozide) และโครมาฟีโนไซด์ (chromafenozide) ในผักที่มีน้ำและคลอโรฟีลสูง

คำหลัก :

ผู้วิจัย : วาเลนไทน์ เจือสกุล

ผู้ร่วมวิจัย : วิชุตา ควรหัตร์ และวีระสิงห์ แสงวรรณ

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

ปี: 2562

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 24 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          พัฒนาและตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีวิเคราะห์สารพิษตกค้าง methoxyfenozide, tebufenozide และ chromafenozide ในผักที่มีน้ำและคลอโรฟีลล์สูง โดยเลือกคะน้าเป็นตัวแทนพืชที่ศึกษา เปรียบเทียบวิธีการสกัดตัวอย่างเพื่อหาวิธีที่เหมาะสม 2 วิธี ได้แก่ วิธี QuEChERS (EN15662, 2008) และวิธี ethyl acetate (Pihlstrom etal., 2007) โดยศึกษาที่ความเข้มข้นในตัวอย่าง 3 ระดับความเข้มข้นๆ ละ 5 ซ้ำ ดังนี้ methoxyfenozide ที่ 0.005 - 0.5 mg/kg, tebufenozide ที่ 0.01 - 1.0 mg/kg และ chromafenozide ที่ 0.01 - 0.5 mg/kg ตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างโดยใช้เทคนิคลิควิดโครมาโทกราฟฟีแมสสเปกโทรมิเตอร์ (LC-MS/MS) จากผลการศึกษาพบว่า การสกัดตัวอย่างด้วยวิธี QuEChERS ให้ค่าร้อยละการกลับคืน (%recovery) ดีกว่าการสกัดตัวอย่างด้วยวิธี ethyl acetate ซึ่งมี %recovery อยู่ในช่วง 50 - 123% และมี %RSD ในช่วง 1 - 24% จึงใช้วิธี QuEChERS มาตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีวิเคราะห์ตาม parameter ต่างๆ ในตัวอย่างคะน้า พบว่ามีช่วงความเป็นเส้นตรงของวิธีวิเคราะห์ (range/linearity) อยู่ที่ 0.005 - 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีความแม่น (accuracy) โดยประเมินจากร้อยละการกลับคืน (%recovery) อยู่ในช่วง 93 - 104% มีความเที่ยง (precision) โดยประเมินจาก %RSD มีค่าอยู่ในช่วง 2 - 9% วิธีวิเคราะห์สารพิษตกค้าง methoxyfenozide, tebufenozide และ chromafenozide ในผักที่มีน้ำและคลอโรฟีลล์สูง มีความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถวิเคราะห์หาปริมาณได้ (LOQ) เท่ากับ 0.005, 0.01 และ 0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และมีความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถตรวจวัดได้ (LOD) เท่ากับ 0.001, 0.002 และ 0.003 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 7 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 21-03-2568

แจ้งไฟล์หาย