คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ เพื่อเพิ่มผลผลิตมังคุดนอกฤดูคุณภาพในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำหลัก :

ผู้วิจัย : วิริยา ประจิมพันธุ์

ผู้ร่วมวิจัย : อาพร คงอิสโร และกิรนันท์ เหมาะประมาณ

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 17 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในอำเภอชะอวด และอำเภอท่าศาลา มังคุดมีการให้ผลผลิตนอกฤดูซึ่งจะเก็บเกี่ยวประมาณเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ จากการสำรวจพบเพลี้ยไฟเป็นแมลงศัตรูสำคัญ (key pest) ของมังคุด แต่ไม่พบการระบาดและความเสียหายที่เกิดจากการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง โดยเพลี้ยไฟจะทำลายดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนอ่อนๆ ของต้นมังคุด ได้แก่ ยอด ดอก ผล และใบ ทำให้ยอดและใบแห้ง ผิวผลลาย (ขี้กลาก) มีอาการยางไหล และผลอาจร่วงได้หากเข้าทำลายรุนแรงผลผลิตด้อยคุณภาพขายไม่ได้ราคา ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการผลิตมังคุดนอกฤดู ผลการสำรวจประชากรเพลี้ยไฟในรอบปีพบว่า ปริมาณน้ำฝนและจำนวนเพลี้ยไฟจะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน คือ พบเพลี้ยไฟจำนวนมากและระบาดรุนแรงในช่วงที่มีฝนตกน้อย สภาพอากาศแห้งแล้ง ถ้ามีปริมาณฝนมากจะพบเพลี้ยไฟระบาดน้อย และการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรเพลี้ยไฟในสวนมังคุดในรอบ 1 ปี มีความสัมพันธ์กับระยะการพัฒนาของมังคุด โดยพบปริมาณเพลี้ยไฟสูงในระยะแตกใบอ่อน และเพิ่มสูงขึ้นอีก เมื่อมังคุดเข้าสู่ระยะออกดอกและติดผลอ่อน มังคุดแตกใบอ่อนในช่วงปลายเดือนเมษายน และเข้าสู่ระยะดอกตูมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม และดอกบานในช่วงกลางเดือนกันยายน ระยะติดผลอ่อนประมาณปลายเดือนกันยายน ซึ่งช่วงดังกล่าวจะพบปริมาณเพลี้ยไฟสูงเนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงที่เพลี้ยไฟจะเข้าทำลายพืชโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนอ่อนของพืชเป็นอาหาร และเมื่อเข้าสู่ระยะผลแก่ถึงระยะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปริมาณเพลี้ยไฟลดลง จากการทดสอบวิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟแบบผสมผสาน โดยใช้วิธีตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร เปรียบเทียบกับวิธีการของเกษตรกร พบว่าการจัดการเพลี้ยไฟโดยวิธีการผสมผสานตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ผลผลิตมังคุดเสียหายน้อยกว่าวิธีการของเกษตรกร ความเสียหายเฉลี่ย 53.95 และ 98.8 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และขนาดผลผลิตมังคุดนอกฤดูในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีน้ำหนักผลเฉลี่ยระหว่าง 71 - 100 กรัม ซึ่งขนาดมังคุดที่ส่งออกต้องมีน้ำหนักมากกว่า 70 กรัม (Department of Agriculture, 2003 cited by Sdoodee and Phonrong, 2006) ดังนั้นการพัฒนาการผลิตมังคุดนอกฤดูเพื่อการส่งออกจึงมีโอกาสสูงในอนาคต เนื่องจากมังคุดที่ได้คุณภาพผลมีขนาดใหญ่ และเกษตรกรรู้วิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟเพื่อป้องกันการเกิดผลลาย ทำให้ผลผลิตมังคุดมีราคาสูงกว่ามังคุดทั่วไป 3 - 4 เท่า

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 11 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 25-04-2568

แจ้งไฟล์หาย