คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การสูญเสียปริมาณและคุณภาพของแป้งมันสำปะหลังตลอดเส้นทางหลังการเก็บเกี่ยว

คำหลัก : แป้งมันสำปะหลัง มันสำปะหลัง การสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว

ผู้วิจัย : อรวรรณ จิตต์ธรรม

ผู้ร่วมวิจัย : จารุวรรณ บางแวก และนฤเทพ เวชภิบาล

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 14 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          วัตถุประสงค์ของการทดลองเพื่อศึกษาการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยวทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของแป้งมันสำปะหลังตลอดเส้นทางหลังการเก็บเกี่ยว โดยทำการทดลอง ณ ห้องปฏิบัติการกองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร ในปี 2559 - 2561 โดยในปี 2560 ทำการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังและนำหัวสดมาเก็บรักษานาน 6 วันหลังการเก็บเกี่ยวจากนั้นนำมาแปรรูปเป็นแป้งสตาร์ช เพื่อศึกษาการสูญเสียปริมาณและคุณภาพแป้งหลังการเก็บเกี่ยว พบว่ามันสำปะหลังจะสูญเสียน้ำหนัก 5.35% สูญเสียแป้งถึง 3.58% เมื่อทำการกองไว้นาน 3 วันหลังการเก็บเกี่ยว หากกองไว้เป็นเวลา 6 วัน เนื้อมันสำปะหลังเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไม่สามารถนำไปทำแป้งได้ จากนั้นทำการศึกษาการสูญเสียคุณภาพแป้งในขณะการเก็บรักษา โดยการนำแป้งที่ผลิตจากมันสำปะหลังทันที และ 3 วันหลังการเก็บเกี่ยวมาทำการเก็บรักษา 12 เดือน ที่อุณหภูมิห้อง และที่ 10 องศาเซลเซียส วิเคราะห์คุณภาพแป้งทุก 2 เดือน พบว่า แป้งมีความชื้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่เกิน 14.00% องค์ประกอบทางเคมีไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักตลอดอายุการเก็บรักษา ในสภาพ 10 องศาเซลเซียส แป้งสามารถเก็บได้นาน 6 เดือน โดยยังคงคุณภาพดี ยกเว้นค่าความสว่างของแป้งลดลงเหลือ 68.70 และ 68.45 ในแป้งที่ผลิตจากมันสำปะหลังทันที (0 วัน) และ 3 วันหลังการเก็บเกี่ยว ตามลำดับ ในขณะแป้งที่เก็บรักษา ณ อุณหภูมิห้องมีค่าความหนืดสูงสุดของแป้งลดลงเมื่อเก็บรักษานาน 2 - 4 เดือน และค่าความสว่างลดลงเมื่อเก็บรักษานาน 6 เดือน ในปี 2561 ทำการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังและนำหัวมันสดมาเก็บรักษานาน 5 วัน และนำมาทำแป้งที่ 0 2 3 4 และ 5 วันหลังการเก็บเกี่ยว วิเคราะห์คุณภาพแป้งเพื่อศึกษาผลของการแปรรูปล่าช้าต่อปริมาณและคุณภาพแป้ง ผลการทดลองพบว่า มันสำปะหลังสูญเสียน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์แป้งเมื่อทำการแปรรูปเป็นแป้งล่าช้า ซึ่งอัตราการสูญเสียเพิ่มขึ้นเมื่อทำการแปรรูปล่าช้าขึ้น โดยมีการสูญเสียน้ำหนัก 3.44 6.31 8.26 และ 8.91% สูญเสียแป้ง 2.45 6.60 10.88 และ 11.28% เมื่อทำการกองทิ้งไว้นาน 2 3 4 และ 5 วัน ซึ่งการแปรรูปเป็นแป้งล่าช้าส่งผลต่อคุณภาพของแป้ง โดยโปรตีน น้ำมัน ความสว่าง และค่าความหนืดสูงสุดลดลงเช่นเดียวกับปี 2560 ในปี 2561 นำแป้งที่ผลิตจากมันสำปะหลัง 0 2 3 4 และ 5 วันหลังการเก็บเกี่ยว มาทำการเก็บรักษานาน 6 เดือน ที่อุณหภูมิห้อง และที่ 10 องศาเซลเซียส วิเคราะห์คุณภาพแป้งทุก 2 เดือน พบว่าแป้งมีความชื้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 13% ในสภาพ โดยที่ 10 องศาเซลเซียส แป้งสามารถเก็บได้นาน 6 เดือน โดยยังคงคุณภาพดีค่าความหนืดสูงสุดและค่าความสว่างไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอายุการเก็บรักษา สำหรับแป้งที่เก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้อง พบว่าแป้งมีค่าความหนืดสูงสุดลดลงเมื่ออายุการเก็บรักษานานขึ้น ทำการศึกษาการสูญเสียคุณภาพมันเส้นขณะทำการเก็บรักษา โดยการศึกษาคุณภาพของมันเส้นจาก 2 แหล่ง คือห้องปฏิบัติการและโรงงานมันเส้น เมื่อเก็บรักษา ณ อุณหภูมิห้องนาน 12 เดือน พบว่ามันเส้นจากทั้ง 2 แหล่ง มีคุณภาพใกล้เคียงกันตลอดอายุการเก็บรักษา

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 11 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 02-05-2568

แจ้งไฟล์หาย