คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การใช้สารรมฟอสฟีนอย่างเหมาะสมในการกำจัดมอดหนวดยาวสายพันธุ์ต้านทาน

คำหลัก :

ผู้วิจัย : กรรณิการ์ เพ็งคุ้ม

ผู้ร่วมวิจัย : ใจทิพย์ อุไรชื่น และดวงสมร สุทธิสุทธิ์

หน่วยงาน : กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 7 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ปัญหามอดหนวดยาว (Cryptolestes spp.) สร้างความต้านทานต่อสารรมฟอสฟีนในประเทศไทยทำให้ไม่สามารถใช้ฟอสฟีนตามอัตราคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตรกำจัดมอดหนวดยาวทั้งหมดได้ จึงต้องศึกษาเพื่อหาอัตราที่เหมาะสมกับมอดหนวดยาวที่มีระดับความต้านทานต่างกัน ทำการศึกษาระหว่างปี 2559 - 2560 โดยคัดเลือกมอดหนวดยาว 15 สายพันธุ์ นำมาทดสอบระดับความต้านทาน พบแมลงสายพันธุ์อ่อนแอ (RR ≤ 1เท่า) จำนวน 7 สายพันธุ์ มีระดับความต้านทานต่ำ (RR อยู่ระหว่าง 1.540039063 - 15.65332031 เท่า) จำนวน 4 สายพันธุ์ มีระดับความต้านทานปานกลาง (RR อยู่ระหว่าง 273.0263672 - 410.3515625 เท่า) จำนวน 2 สายพันธุ์ และระดับความต้านทานสูง 2 สายพันธุ์ (RR อยู่ระหว่าง 13577.38281 - 4.9563E+28 เท่า) จากนั้นคัดเลือกมอดหนวดยาว 5 สายพันธุ์ มาทดสอบการรมในสภาพโรงเก็บขนาดกอง 1 ตัน ผลการทดสอบพบว่า มอดหนวดยาวสายพันธุ์อ่อนแอและต้านทานต่ำ สามารถกำจัดด้วยฟอสฟีนอัตรา 2 เม็ดต่อตัน ระยะเวลารม 7 วัน มอดหนวดยาวสายพันธุ์ต้านทานปานกลาง สามารถกำจัดด้วยฟอสฟีนอัตรา 2 เม็ดต่อตัน ระยะเวลารม 14 วัน หรืออัตรา 3 เม็ดต่อตัน ระยะเวลารม 7 วัน ส่วนมอดหนวดยาวสายพันธุ์ต้านทานสูง ต้องใช้ฟอสฟีนอัตรา 5 เม็ดต่อตัน ระยะเวลารม 7 วัน ดังนั้นการจัดการใช้สารมฟอสฟีนกับมอดหนวดยาวให้มีประสิทธิภาพจึงควรรู้ระดับความต้านทานของแมลงเพื่อเลือใช้อัตราสารฟอสฟีนที่เหมาะสม และควรกำจัดแมลงแวดล้อมไปพร้อมกันเพื่อป้องกันการเข้าทำลายซ้ำของแมลง

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 1 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 15-05-2568

แจ้งไฟล์หาย