คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เปรียบเทียบและวิเคราะห์ช่องว่างของผลผลิตอ้อยในพื้นที่ปลูกอ้อย จ.กาญจนบุรี

คำหลัก : อ้อย วิเคราะห์ ช่องว่างผลผลิต แบบจำลองพืช

ผู้วิจัย : สุมาลี โพธิ์ทอง

ผู้ร่วมวิจัย : ปรีชา กาเพ็ชร, วิภาวรรณ กิติวัชระเจริญ และทิพย์ดรุณี สิทธินาม

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดทนพลังงาน และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 7 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การผลิตอ้อยในประเทศไทยมีความแปรปรวนค่อนข้างสูงทั้งด้านการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตเนื่องจากมีความหลากหลายของสภาพแวดล้อมและการจัดการแปลงของเกษตรกรภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอนั้น จำเป็นต้องมีการประเมินศักยภาพการผลิตอ้อยในแต่ละพื้นที่ จึงศึกษาและวิเคราะห์ช่องว่างผลผลิตอ้อยของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหาสภาพแวดล้อมการผลิตและสาเหตุของความแปรปรวนของผลผลิตอ้อยในจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการในปี 2558 - 2561 โดยสร้างหน่วยจำลองการผลิตย่อย (SMU) จากแผนที่กลุ่มชุดดิน เขตภูมิอากาศ และพื้นที่ปลูกอ้อยใช้แบบจำลอง CANEGRO ใน DSSAT 4.5 จำลองผลผลิตอ้อยสูงสุดตามศักยภาพของพืช (potential yield) ประเมินผลผลิตที่ได้จริงของเกษตรกร (actual yield) โดยการสุ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่ smu เป้าหมาย เพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างของผลผลิต (yield gap) ระหว่างผลผลิตสูงสุดตามศักยภาพกับผลผลิตที่เกษตรกรได้จริง ผลการดำเนินงานพบว่า พื้นที่ปลูกอ้อยจังหวัดกาญจนบุรีจำนวน 684,807 ไร่ จากการซ้อนทับพื้นที่ปลูกอ้อยปี 2555/2556 กับแผนที่กลุ่มชุดดิน (กรมพัฒนาที่ดิน) พบว่าพื้นที่ปลูกอ้อยประกอบด้วย 29 กลุ่มชุดดิน และเมื่อซ้อนทับพื้นที่ปลูกอ้อยกับแผนที่ภูมิอากาศ (กรมอุตุนิยมวิทยา) พบว่า พื้นที่ปลูกอ้อยอยู่ในเขตภูมิอากาศ 4 สถานีอากาศ เมื่อซ้อนทับแผนที่กลุ่มชุดดินและแผนที่เขตภูมิอากาศของพื้นที่ปลูกอ้อยในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสร้างเป็นหน่วยจำลองการผลิตย่อยได้ 66 SMU มีค่าเฉลี่ยของ potential yield เท่ากับ 31.96 ตันต่อไร่ ซึ่งถือว่าจังหวัดกาญจนบุรีมีศักยภาพการผลิตอ้อยสูงแต่กลับพบว่า เกษตรกรมีผลผลิตเฉลี่ยจริง (actual yield) เพียง 16.03 ตันต่อไร่ ซึ่งมีช่องว่างระหว่างผลผลิตตามศักยภาพและผลผลิตจริง (yield gap) ค่อนข้างสูง (15.93 ตันต่อไร่) และเมื่อวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดช่องว่างของผลผลิตพบว่า การจัดการน้ำ ความแตกต่างของดินและการจัดการวัชพืช เป็นสาเหตุสำคัญของความแปรปรวนของผลผลิต ดังนั้นการนำเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการน้ำ การปรับปรุงบำรุงดิน และการป้องกันกำจัดวัชพืช เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการยกระดับผลผลิตของอ้อยในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโจทย์วิจัยสำหรับนักวิชาการในการเพิ่มผลผลิตอ้อยในเขตนี้ให้มีผลิตสูงตามศักยภาพต่อไป

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 3 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 19-05-2568

แจ้งไฟล์หาย