คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ผลของความแตกร้าวต่อคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง

คำหลัก : เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง ระดับความแตกร้าว คุณภาพเมล็ดพันธุ์ อายุการเก็บรักษา

ผู้วิจัย : ภภัสสร วัฒนกุลภาคิน

ผู้ร่วมวิจัย : กัณทิมา ทองศรี,จิระ สุวรรณประเสริฐ,ศุภลักษ์ สัตยสมิทสถิต,สนอง บัวเกตุ

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 19 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองมักแตกร้าวและเกิดความเสียหายทางกลได้ง่าย ทั้งในขั้นตอนการเก็บเกี่ยว การลดความชื้น และการปรับปรุงสภาพ ส่งผลให้ความงอก ความแข็งแรง และอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธุ์ลดลง งานวิจัยนี้จึงทำการศึกษาผลของระดับความแตกร้าวต่อคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่60 โดยนำเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่60 ที่ผลิตฤดูฝนปี 2559 และฤดูแล้งปี 2560 มาทดสอบความแตกร้าวโดยการย้อมสีด้วย Indoxyl acetate จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์มาจัดกลุ่มตามระดับความแตกร้าวเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) ระดับความแตกร้าวที่ 0 – 2% (2) 3 – 5% และ (3) >5% แล้วนำตัวอย่างแต่ละกลุ่มบรรจุใส่ถุงพลาสติกโพลีโพรพิลีน เก็บรักษาที่อาคารเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ อุณหภูมิ 20 - 22 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 120 วัน ทำการทดสอบคุณภาพก่อนและภายหลังการเก็บรักษาทุกๆ 30 วัน ผลการทดลองพบว่าความชื้นของเมล็ดพันธุ์ที่ลดลงสัมพันธ์กับระดับความแตกร้าวที่เพิ่มขึ้น สำหรับความงอกและความแข็งแรงซึ่งวัดโดยความงอกภายหลังการเร่งอายุและดัชนีอัตราความงอกแสดงความสัมพันธ์แบบผกผันกับความแตกร้าวกล่าวคือ ความแตกร้าวต่ำส่งผลให้ความงอก ความแข็งแรง และอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองสูงกว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีความแตกร้าวสูง โดยที่ระดับความแตกร้าว 3% ขึ้นไป ทำให้ความงอกและความแข็งแรงลดลงอย่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีค่าลดลงอย่างต่อเนื่องในระหว่างการเก็บรักษา สำหรับค่าการนำไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามระดับความแตกร้าวที่สูงขึ้นและมีการสะสมเพิ่มขึ้นในระหว่างการเก็บรักษา แต่อย่างไรก็ตามค่า Thiobarbituric acid (TBA) ค่อนข้างคงที่ในระหว่างการเก็บรักษา นอกจากนี้พบว่าเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตในฤดูแล้งปี 2560 มีความแข็งแรงสูงกว่าเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตในฤดูฝนปี 2559 ซึ่งเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองฤดูแล้งปี 2560 ที่แตกร้าวไม่เกิน 5% สามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 20 - 22 องศาเซลเซียส ข้ามฤดูปลูกได้ ในขณะที่เมล็ดพันธุ์ฤดูฝนปี 2559 ต้องมีความแตกร้าวไม่เกิน 3% จึงสามารถเก็บรักษาเพื่อเพาะปลูกฤดูถัดไปได้

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 10 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 21-05-2568

แจ้งไฟล์หาย