คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

อิทธิพลของการจัดการดินปุ๋ยต่อสมดุลของธาตุอาหารพืชในการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในสภาพพื้นที่ดินร่วน-ร่วนปนทราย

คำหลัก :

ผู้วิจัย : สมฤทัย ตันเจริญ

ผู้ร่วมวิจัย : ปิยะนันท์ วิวัฒน์วิทยา และณัฐพงศ์ ศรีสมบัติ

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 8 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การผลิตข้าวโพดฝักอ่อนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี ต้องมีการจัดการดินและธาตุอาหารพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ปลูก และรักษาสมดุลของธาตุอาหารที่ใส่เข้าไปและธาตุอาหารที่สูญหายไปจากพื้นที่ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเพื่อรักษาศักยภาพในการผลิตพืชของดินให้ยั่งยืน ดังนั้นจึงได้ทำการศึกษาอิทธิพลของการจัดการดินปุ๋ยต่อสมดุลของธาตุอาหารพืชในการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในสภาพพื้นที่ดินร่วน-ร่วนปนทราย จังหวัดกาญจนบุรี วางแผนการทดลองแบบ Split plot จำนวน 6 ซ้ำ ประกอบด้วย ปัจจัยหลัก คือ การจัดการดินด้วยเศษซากพืช (ต้นและใบข้าวโพด) ได้แก่ 1) นำเศษซากพืชออก 2) ไถกลบเศษซากพืช ปัจจัยรอง คือ การจัดการปุ๋ย มี 4 กรรมวิธี ได้แก่ 1) ไม่ใส่ปุ๋ย 2) ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน (30-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่) 3) ใส่ปุ๋ยอินทรีย์มูลวัวอัตรา 3,000 กิโลกรัมต่อไร่ 4) ใส่ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนครึ่งอัตราของคำแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดิน (15-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์มูลวัวอัตรา 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ 
          ผลการทดลองพบว่า ธาตุอาหารในพื้นที่มีการสูญหายโดยติดออกไปกับผลผลิตข้าวโพดฝักอ่อน (ฝักและกาบฝัก) เฉลี่ย 3.71-0.95-3.27 กิโลกรัมN-P-Kต่อไร่ต่อฤดูปลูก หากไม่มีการไถกลบเศษซากพืชกลับลงไปในพื้นที่ จะทำให้มีธาตุอาหารสูญหายออกไปทั้งหมด 9.16 2.37 และ 10.42 กิโลกรัมN-P-Kต่อไร่ต่อฤดูปลูก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยกลับลงไปในพื้นที่เพื่อทดแทนปริมาณธาตุอาหารที่สูญหายออกไป การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนโดยนำเศษซากพืชออกไปจากพื้นที่และไม่มีการใส่ปุ๋ย และการไถกลบเศษซากพืชและไม่มีการใส่ปุ๋ย จะทำให้ธาตุอาหารไนโตรเจนสูญหายออกไปจากพื้นที่หรือมีค่าขาดดุลเฉลี่ย 0.7 และ 0.8 กิโลกรัมNต่อไร่ ตามลำดับ และหากปฏิบัติเช่นนี้ต่อเนื่องจะทำให้คุณภาพดินและศักยภาพในการผลิตพืชลดลง ส่งผลให้ผลผลิตพืชลดลงด้วยแต่ถ้ามีการไถกลบเศษซากพืชกลับลงไปในพื้นที่หรือการนำเศษซากพืชออกและมีการใส่ปุ๋ย 30-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ก็จะส่งผลให้สมดุลของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม มีค่าเกินดุลในทุกกรรมวิธี โดยมีค่าเกินดุลเท่ากับ 30.5-2.1-8.9 กิโลกรัมN-P-Kต่อไร่ และ 29.6-2.0-9.1 กิโลกรัมN-P-Kต่อไร่ ตามลำดับ และถ้ามีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หรือใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ก็จะทำให้สมดุลของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมมีค่าเกินดุลเพิ่มมากขึ้น สำหรับผลผลิตของข้าวโพดหวาน การไถกลบเศษซากพืชและการนำเศษซากพืชออก ให้ผลผลิตแตกต่างกัน โดยการไถกลบเศษซากพืชให้ผลผลิตสูงกว่าการนำเศษซากพืชออก การจัดการปุ๋ยโดยการใส่ปุ๋ย 15-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ร่วมกับมูลวัวอัตรา 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด ไม่แตกต่างกับการใส่ปุ๋ย 30-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ เมื่อพิจารณาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจพบว่า การไถกลบเศษซากพืชโดยไม่ใส่ปุ๋ย และการไถกลบเศษซากพืชหรือการนำเศษซากพืชออกร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมี 30-5-10 กิโลกรัมN-P2O5-K2Oต่อไร่ ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 2 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 23-05-2568

แจ้งไฟล์หาย