คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ผลของแคลเซียมและปุ๋ยเคมีต่อผลผลิตถั่วลิสงสายพันธุ์ดีเด่น ชุดที่ 1

คำหลัก :

ผู้วิจัย : เนติรัฐ ชุมสุวรรณ

ผู้ร่วมวิจัย : วรยุทธ ศิริชุมพันธ์ และกมลวรรณ เรียบร้อย

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 3 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          ศึกษาผลของแคลเซียม และอัตราต่อการปลูกถั่วลิสงสายพันธุ์ดีเด่น KK97-44-106, KK 4920-15 และ KK 4915-2 ในฤดูฝน ปี 2559, 2560 และ 2561 ตามลำดับ ในฤดูฝน ปี 2559 วางแผนการทดลองแบบ Split Plot ปัจจัยหลัก (main plot) คือ กรรมวิธีใส่แคลเซียม 2 วิธี คือ 1) ไม่ใส่ และ 2) ใส่ปูนขาว อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจัยย่อย (subplot) คือ อัตราการใส่ปุ๋ยเคมีเกรด 12-24-12 4 อัตรา ได้แก่ 1) ไม่ใส่ 2) 12.5 กิโลกรัมต่อไร่ 3) 25 กิโลกรัมต่อไร่ และ 4) 37.5 กิโลกรัมต่อไร่ ในฤดูฝน ปี 2560 วางแผนการทดลองแบบ Split Plot ปัจจัยหลัก (main plot) คือ กรรมวิธีใส่แคลเซียม 5 วิธี ได้แก่ 1) ไม่ใส่ 2) ใส่ปูนขาวอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ 3) ใส่ปูนขาวอัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ 4) ใส่ยิปซัม อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ 5) ใส่ยิปซัม อัตรา 75 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจัยย่อย (subplot) คือ อัตราการใส่ปุ๋ยเคมีเกรด 12-24-12 4 อัตรา ได้แก่ 1) ไม่ใส่ 2) 12.5 กิโลกรัมต่อไร่ 3) 25 กิโลกรัมต่อไร่ และ 4) 37.5 กิโลกรัมต่อไร่ และในฤดูฝน ปี2561 วางแผนการทดลองแบบ Split Plot ปัจจัยหลัก (main plot) คือ กรรมวิธีใส่แคลเซียม 4 วิธี ได้แก่ 1) ไม่ใส่ 2) ใส่ปูนขาวอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร 3) ใส่โดโลไมล์ อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และ 4) ใส่ยิปซัม อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจัยย่อย (subplot) คือ อัตราการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน มี 4 อัตรา ได้แก่ 1) ไม่ใส่ 2) อัตรา 0.5 เท่าของค่าวิเคราะห์ดิน (1.5-4.5-3 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่) 3) ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน (3-9-6 กิโลกรัม NP2O5-K2O ต่อไร่) และ 4) อัตรา 1.5 เท่าของค่าวิเคราะห์ดิน (4.5-13.5-9 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่)

ถั่วลิสงสายพันธุ์ดีเด่น KK97-44-106 พบว่า การใส่ปูนขาวอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีเกรด 12-24-12 กิโลกรัมต่อไร่ มีแนวโน้มให้ผลผลิตฝักแห้ง น้ำหนักฝักดีต่อต้น น้ำหนัก 100 เมล็ด และเปอร์เซ็นต์กะเทาะสูงกว่ากรรมวิธีอื่น ถั่วลิสงสายพันธุ์ดีเด่น KK 4920-15 พบว่า การใส่แคลเซียมทุกกรรมวิธี (ปูนขาว อัตรา 100 และ 200 กิโลกรัมต่อไร่ ยิปซัม อัตรา 50 และ 75 กิโลกรัมต่อไร่) มีผลผลิตฝักแห้งสูงกว่ากรรมวิธีที่ไม่ใส่แคลเซียมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและพบว่า การใส่ปูนขาว อัตรา 100 และ 200 กิโลกรัมต่อไร่ และยิปซัมอัตรา 50 และ 75 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตฝักแห้งไม่แตกต่างกัน และพบว่า การใส่ปุ๋ยเคมีเกรด 12-24-12 อัตรา 12.5 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตฝักแห้งมากกว่าอัตราอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และไม่พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างกรรมวิธีการใส่แคลเซียมกับอัตราปุ๋ยเคมีเกรด 12-24-12 และถั่วลิสงสายพันธุ์ดีเด่น KK4915-2 พบว่า กรรมวิธีการใส่แคลเซียมมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับอัตราปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยกรรมวิธีที่ไม่ใส่แคลเซียม การใส่ปุ๋ยอัตรา 1.5 เท่าของปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือ 4.5-13.5-9 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ ให้ผลผลิตมากกว่าอัตราอื่น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกรรมวิธีที่ใส่ปูนขาว อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือ 3-9-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่ ให้ผลผลิตฝักแห้งมากกว่าอัตราอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่กรรมวิธีที่ใส่โดโลไมท์ อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และกรรมวิธีที่ใส่ยิปซัม อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ พบว่า การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน (3-9-6 กิโลกรัม N-P2O5-K2O ต่อไร่) ให้ผลผลิตฝักแห้งมากกว่าอัตราอื่น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 2 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 28-05-2568

แจ้งไฟล์หาย