คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

ระบบการปลูกพืชไร่ก่อนงาในสภาพดินร่วนปนทราย

คำหลัก : ระบบปลูกพืชไร่ งา ดินร่วนปนทราย

ผู้วิจัย : อรอนงค์ วรรณวงษ์

ผู้ร่วมวิจัย : ลักขณา ร่มเย็น,ประภาพร แพงดา,บุญเหลือ ศรีมุงคุณ,จำลอง กกรัมย์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 3

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 15 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

           การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระบบการปลูกพืชไร่ก่อนงาในสภาพดินร่วนปนทราย ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2559 - 2561 วางแผนการทดลองแบบ RCB 4 ซ้ำ 6 กรรมวิธี มีระบบการปลูกพืช ดังนี้ 1. ถั่วเหลือง-งา 2. ข้าวโพดฝักสด-งา 3. ถั่วลิสง-งา 4. ถั่วเขียว-งา 5. ถั่วพุ่ม-งา 6. งา-งา เป็นการปลูกพืชในสภาพไร่ดินร่วนปนทราย ปลูกงาเป็นพืชที่สอง ใช้งาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1 ผลการทดลองพบว่า ปี 2560 - 2561 พืชไร่ที่ปลูกเป็นพืชแรกที่ให้ผลค่อนข้างดี คือ ถั่วลิสง งา และข้าวโพดหวาน ทั้งด้านการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต ส่วนการปลูกงาในระบบปลูกพืช ปี 2560 พบว่างาให้ผลผลิต และองค์ประกอบผลผลิต ได้แก่ จำนวนฝักต่อต้น น้ำหนัก 1,000 เมล็ด จำนวนต้นเก็บเกี่ยวต่อไร่ ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ซึ่งงามีผลผลิตอยู่ระหว่าง 114 - 132 กก./ไร่ ส่วนน้ำหนัก 1,000 เมล็ดอยู่ระหว่าง 2.94 - 3.09 กรัม ปี 2561 หลังเก็บเกี่ยวพืชแรก ได้เตรียมแปลงปลูกงาเป็นพืชที่สองเดือนกรกฎาคม หลังปลูกมีฝนตกชุกตลอดจนถึงกลางเดือนกันยายน ทำให้แปลงงาถูกน้ำท่วมเสียหาย ปลูกงาใหม่วันที่ 26 กันยายน 2561 เก็บเกี่ยว 20 ธันวาคม 2561 เก็บเกี่ยวอายุ 82 วัน พบว่า แต่ละกรรมวิธีงาให้ผลผลิต องค์ประกอบผลผลิตที่สำคัญ ได้แก่ จำนวนฝักต่อต้น น้ำหนัก 1,000 เมล็ด ไม่แตกต่างกันทางสถิติงาให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 108 - 139 กก./ไร่ น้ำหนัก 1,000 เมล็ดอยู่ระหว่าง 3.32 - 3.39 กรัม การให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของพืชไร่ที่ปลูกเป็นพืชแรก ข้าวโพดหวาน ถั่วลิสง และงา ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดีมาก ส่วนงาที่ปลูกเป็นพืชที่สองมีรายได้สุทธิ อยู่ระหว่าง 4,100 - 4,700 บาทต่อไร่

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 7 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 29-05-2568

แจ้งไฟล์หาย