คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีแบบผสมผสานสำหรับผลิตงาในพื้นที่นาที่มีแหล่งน้ำเสริม

คำหลัก : เทคโนโลยีแบบผสมผสาน งา สภาพนา แหล่งน้ำเสริม

ผู้วิจัย : อรอนงค์ วรรณวงษ์

ผู้ร่วมวิจัย : ประภาพร แพงดา, บุญเหลือ ศรีมุงคุณ, ศิริรัตน์ กริชจนรัช, สมหมาย วังทอง และจำลอง กกรัมย์

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 0 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเทคโนโลยีแบบผสมผสานส้าหรับผลิตงาในพื้นที่นาที่มีแหล่งน้ำเสริม ระหว่างปี 2559 - 2561 ระยะเวลา 3 ปี ดำเนินการสภาพนาชลประทาน ต.คำเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี จัดสิ่งทดลองแบบ 2x2x2 factorial ในแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ภายในบล็อก (randomized complete block design, RCB) จำนวน 4 ซ้ำ ปัจจัยที่ 1 คือ วิธีการปลูก 2 วิธี ได้แก่ แบบหว่าน และโรยเป็นแถว ระยะระหว่างแถว 30 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 5 - 10 เซนติเมตร ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 1 กก./ไร่ ปัจจัยที่ 2 คือ การใส่ปุ๋ย 2 วิธี ได้แก่ ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กก./ไร่ และปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ ปัจจัยที่ 3 คือ การกำจัดวัชพืช 2 วิธี ได้แก่ แรงงานคน 1 ครั้ง และใช้สารเคมีอะลาคลอร์ อัตรา 500 - 600 ซีซี/ไร่ พ่นทันทีหลังปลูก มี 8 กรรมวิธี ดังนี้ 1.ปลูกงาแบบหว่าน + ใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กก./ไร่ + กำจัดวัชพืชด้วยแรงงาน 1 ครั้ง (งาอายุ 15 - 20 วัน) 2. ปลูกงาแบบหว่าน + ใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กก./ไร่ + พ่นสารเคมีควบคุมวัชพืช (ทันทีหลังปลูก) 3. ปลูกงาแบบหว่าน + ปุ๋ยเคมี16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ (พร้อมการหว่านงาและคราดกลบ) + กำจัดวัชพืชด้วยแรงงาน 1 ครั้ง (งาอายุ 15 - 20 วัน) 4. ปลูกงาแบบหว่าน + ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ (พร้อมการหว่านงาและคราดกลบ) + พ่นสารเคมีควบคุมวัชพืช (ทันทีหลังปลูก) 5. ปลูกงาแบบโรยเป็นแถว + ใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กก./ไร่ + กำจัดวัชพืชด้วยแรงงาน 1 ครั้ง (งาอายุ 15 - 20 วัน) 6. ปลูกงาแบบโรยเป็นแถว + ใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 2,000 กก./ไร่ + พ่นสารเคมีควบคุมวัชพืช (ทันทีหลังปลูก) 7. ปลูกงาแบบโรยเป็นแถว + ปุ๋ยเคมี16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ +กำจัดวัชพืชด้วยแรงงาน 1 ครั้ง (งาอายุ 15 - 20 วัน) 8. ปลูกงาแบบโรยเป็นแถว + ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ + พ่นสารเคมีควบคุมวัชพืช (ทันทีหลังปลูก) ปลูกงาดำพันธุ์อุบลราชธานี3 ผลการทดลองทั้ง 3 ปี ไม่พบปฏิกิริยาสัมพันธ์ทั้ง 3 ปัจจัย คือ วิธีปลูก การใส่ปุ๋ย และวิธีการกำจัดวัชพืช แต่มีแนวโน้มว่าวิธีปลูกงาแบบโรยเป็นแถว ระยะระหว่างแถว 30 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 5 - 10 เซนติเมตร งาให้ผลผลิตสูงกว่าแบบหว่าน ผลผลิตอยู่ระหว่าง 57 - 80 กก./ไร่ ด้านองค์ประกอบผลผลิตของงา ไม่พบความแตกต่างกันทางสถิติ วิธีปลูกงาที่ต้นทุนการผลิตต่ำและให้ผลคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ คือ กรรมวิธีที่ 4 และกรรมวิธีที่ 8 ปลูกงาโดยวิธีหว่านและวิธีโรยเป็นแถว มีการจัดการใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ และพ่นสารเคมีควบคุมวัชพืชอะลาคลอร์หลังปลูก งาให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 75 - 84 กก./ไร่ เป็นวิธีที่มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด 1,950 บาทต่อไร่ มีกำไรสุทธิ 1,700 - 2,200 บาท/ไร่

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 0 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 29-05-2568

แจ้งไฟล์หาย