คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การลดความเสียหายในลองกองหลังการเก็บเกี่ยวระหว่างการเก็บรักษา และการขนส่ง

คำหลัก : ลองกอง การลดความเสียหายในลองกองหลังการเก็บเกี่ยว การเก็บรักษาและการขนส่งลองกอง

ผู้วิจัย : อารีรัตน์ การุณสถิตย์ชัย

ผู้ร่วมวิจัย : ชวเลิศ ตรีกรุณาสวัสดิ์,โกเมศ สัตยาวุธ

หน่วยงาน : สํานักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร

ปี: 2554

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 7 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

การลดความเสียหายในลองกองหลังการเก็บเกี่ยวระหว่างการเก็บรักษาและการขนส่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อหาวิธียึดอายุการเก็บรักษาและลดความเสียหายของลองกองในขั้นตอนการเก็บรักษาและการขนส่ง โดยทำการทดลอง ณ สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและและแปรรูปผลิตผลเกษตร ระยะเวลาทำการทดลองตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2553 ถึง กันยายน 2554 เริ่มจากการคัดเลือกช่อผลลองกองเก็บเกี่ยวในระยะที่สีผลในช่อเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ /อายุหลังดอกบาน 13 สัปดาห์ มีความสม่ำเสมอ สี ขนาด น้ำหนัก แล้วพ่นด้วยไคโดซาน ความเข้มข้น 0.25, 0.5, 0.75 และ 1 % โดยมีการพ่นด้วยน้ำเป็นวิธีควบคุม แล้วปล่อยให้แห้ง 30 นาที รมด้วยสาร 1-methylcycropropene (1-mcp) ความเข้มข้น 0 และ 500 ppb นาน 24 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 25 ± 2องศาเซลเซียส ก่อนบรจุถุง Low-density polyethylene (LIDPE) ที่มีสมบัติเป็นบรรจุภัณฑ์แอกทีฟที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของก๊าซและป้องกันการเกิดหยดน้ำภายในถุงได้ ความหนา 40 ไมครอน และเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 85-90 เปอร์เซ็นต์นาน 15 วัน จากการศึกษาพบว่า การใช้ไคโตซานเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อรา ร่วมกับการรมด้วย 1-mcp เป็นสารยับยั้งการทำงานของเอทีลีนเพื่อชะลอการหลุดร่วงของผลลองกองจากช่อ สามารถยืดอายุการเก็บรักษาและชะลอการหลุดร่วงของผลลองกองจากช่อ ได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ใคโตซานหรือการรม 1-mcp เพียงอย่างเดียวเมื่อสิ้นสุดการเก็บรักษานาน 15 วัน พบว่า ช่อผลองกองที่พันด้วยไคโตซานความเข้มข้น 0.25 % และรมด้วย 1-mcp ความเข้มข้น 500 ppb เกิดการหลุดร่วงและการเน่าเสียเพียง 10 % และได้รับการขอมรับจากผู้บริโภค จากการศึกษาการใช้ไคโตซานร่วมกับ 1-mcp พบว่า การเปลี่ยนแปลงสีของเปลือกลองกอง ปริมาณของแข็งทั้งหมดที่ละลายน้ำได้ และปริมาณกรดในเนื้อลองกองที่รมและไม่รม 1-MCP ที่ใด้รับการพ่นไคโตซาน มีค่าใกล้เคียงกันตลอดจนสิ้นสุดการทดลอง โดยเปลือกมีความสว่างและไม่เกิดสีน้ำตาลที่ผิวลองกอง ดังนั้น การใช้ไคโตซานความเข้มข้น 0.25 % ร่วมกับการรมด้วย 1-mcp ความเข้มข้น 500 ppb เป็นกรรมวิธีแนะนำในการลดความเสียหายเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและคงคุณภาพของลองกองหลังการเก็บเกี่ยวได้ดีระหว่างการเก็บรักษาและการขนส่ง

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 2 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-06-2568

แจ้งไฟล์หาย