คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยปุ๋ยโพแทช

คำหลัก :

ผู้วิจัย : สายน้ำ อุดพ้วย

ผู้ร่วมวิจัย : สมฤทัย ตันเจริญ, ชัชธนพร เกื้อหนุน, วีรวัฒน์ นิลรัตนคุณ, เพ็ญรัตน์ เทียมเพ็ง

หน่วยงาน : กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์

ปี: 2561

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 12 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การใช้ปุ๋ยโพแทชที่เหมาะสมควรใช้ให้ตรงตามระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความต้องการของพืช และพันธุ์ที่ปลูกในสภาพแวดล้อมนั้นๆ เพื่อรักษาศักยภาพของดินและปริมาณธาตุโพแทสเซียมที่สูญเสียไปกับผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวในแต่ละฤดูปลูก งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการตอบสนองของการใช้ปุ๋ยโพแทชในอัตราต่างๆ ต่อการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2 พันธุ์ ในดินร่วนเหนียว (Clay loam) และดินเหนียว (Clay) ด้าเนินการทดลองที่ไร่เกษตรกร จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 – กันยายน พ.ศ. 2561 วางแผนการทดลองแบบ 2 x 6 Factorials in RCB มี 12 กรรมวิธี จำนวน 4 ซ้ำ ประกอบด้วย ปัจจัยที่ 1 คือ พันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ 1) พันธุ์นครสวรรค์3 และ 2) พันธุ์แปซิฟิค339 ปัจจัยที่ 2 คือ ระดับของปุ๋ยโพแทช มี 6 ระดับ ได้แก่ 0, 5, 10, 15, 20 และ 25 กิโลกรัม K2O ต่อไร่ โดยทุกกรรมวิธีใส่ปุ๋ยไนโตรเจน และปุ๋ยฟอสเฟตตามค่าวิเคราะห์ดินในอัตรา 15 กิโลกรัม N ต่อไร่ และ 5 กิโลกรัม P2O5 ต่อไร่ ในแปลงดินร่วนเหนียว ส่วนแปลงดินเหนียวใส่ปุ๋ยไนโตรเจน และปุ๋ยฟอสเฟตตามค่าวิเคราะห์ดินในอัตรา 10 กิโลกรัม N ต่อไร่ และ 10 กิโลกรัม P2O5 ต่อไร่ ตามลำดับ
          ผลการศึกษาพบว่า การใช้ปุ๋ยโพแทชที่อัตราต่างๆ ไม่มีผลต่อความสูงต้นข้าวโพด เมื่อเปรียบเทียบระหว่างพันธุ์ พบว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์นครสวรรค์3 มีความสูงต้นมากกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์แปซิฟิค339 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับผลผลิตพบว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งสองพันธุ์ให้ผลผลิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพันธุ์นครสวรรค์3 ให้ผลผลิตต่ำกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์แปซิฟิค339 ให้ผลผลิตทั้งในแปลงที่ปลูกในดินร่วนและดินเหนียว และเมื่อพิจารณาอัตราปุ๋ยโพแทชที่ระดับต่างๆ ไม่ทำให้ผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แตกต่างกันทั้งสองพันธุ์ ปริมาณธาตุอาหารที่สูญหายออกจากพื้นที่โดยติดไปกับผลผลิต (เมล็ดและซัง) ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์นครสวรรค์3 เฉลี่ย 21.9 3.2 และ 4.9 กิโลกรัม N-P-K ต่อไร่ต่อฤดูปลูก และพันธุ์แปซิฟิค339 เฉลี่ย 25.9 3.4 และ 6.5 กิโลกรัม N-P-K ต่อไร่ต่อฤดูปลูก สำหรับการใช้ปุ๋ยโพแทชในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งสองพันธุ์ในดินร่วนเหนียวซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางแต่มีปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้อยู่ในระดับต่ำ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแก่การลงทุนเมื่อใส่ปุ๋ยโพแทชอัตรา 5 กิโลกรัม K2O ต่อไร่ ส่วนการปลูกข้าวโพดในแปลงดินเหนียวที่มีปริมาณโพแทสเซียมในระดับปานกลาง การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์นครสวรรค์ให้ผลในทำนองเดียวกันกับดินร่วนเหนียว ในขณะพันธุ์แปซิฟิค339 ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า เมื่อใส่ปุ๋ยโพแทชอัตรา 15 กิโลกรัม K2O ต่อไร่

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 6 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 11-06-2568

แจ้งไฟล์หาย