คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

การผลิตมันฝรั่งต้านทานโรคใบไหม้นอกฤดูในเขตภาคเหนือตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง

คำหลัก : มันฝรั่ง พันธุ์มันฝรั่ง โรคใบไหม้ นอกฤดู

ผู้วิจัย : วราภรณ์ อุดมดี

ผู้ร่วมวิจัย : รุ่งทิวา ดารักษ์, อรทัย วงษ์เมธา, พินิจ เขียวพุ่มพวง

หน่วยงาน : สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร

ปี: 2560

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 13 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การผลิตมันฝรั่งต้านทานโรคใบไหม้นอกฤดูในเขตภาคเหนือตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง ในพื้นที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ และอ.พบพระ จ.ตาก ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ในระหว่างปี 2559 - 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้พันธุ์มันฝรั่งที่เหมาะสมสำหรับการผลิตในแต่ละฤดูปลูก โดยวางแผนการทดลองแบบ Split plot โดย main plot คือ พันธุ์มันฝรั่งสายพันธุ์ต้านทานโรคใบไหม้ 3 พันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์A3 A9 และพันธุ์แอตแลนติก sub plot คือ ช่วงเวลาการปลูกมันฝรั่ง ได้แก่ ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน - ธันวาคม) ฤดูฝนช่วงแรก (เมษายน - พฤษภาคม) และฤดูฝนช่วงที่ 2 (สิงหาคม - กันยายน) พบว่า การปลูกมันฝรั่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์มันฝรั่งและฤดูปลูกที่ต่างกันต่อน้ำหนักหัวต่อต้น จำนวนหัวต่อต้น ปริมาณผลผลิตที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงาน ปริมาณแป้ง และความแน่นเนื้อของมันฝรั่ง โดยสายพันธุ์A3 ที่ปลูกในฤดูฝนช่วงแรก มีน้ำหนักหัวต่อต้นดีที่สุด คือ 617 กรัม ส่วนพันธุ์แอตแลนติกที่ปลูกในฤดูแล้งมีจำนวนหัวต่อต้นมากที่สุด คือ 12.6 หัว ในฤดูฝนช่วงแรก คือ สายพันธุ์A3 10.7 หัว และในฤดูฝน 11.3 หัว ส่วนปริมาณผลผลิตที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงาน ในฤดูฝนช่วงแรกและช่วงที่ 2 คือ สายพันธุ์A3 จำนวน 1,019 และ 685 กิโลกรัม ตามลำดับ ปริมาณแป้งที่ดีที่สุดในฤดูแล้งและฤดูฝนช่วงแรก คือ สายพันธุ์ A9 เท่ากับ 19.4 และ 17.5 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ส่วนในฤดูฝนช่วงที่ 2 ได้แก่ สายพันธุ์A3 มีปริมาณ 18.6 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณความแน่นเนื้อมากที่สุดเมื่อปลูกมันฝรั่งสายพันธุ์A9 ในฤดูแล้ง มีค่าเท่ากับ 49.3 นิวตัน ส่วนในฤดูฝนช่วงแรกและช่วงที่ 2 พันธุ์แอตแลนติกมีความแน่นเนื้อ 46.2 และ 47.9 นิวตัน ตามลำดับ และสายพันธุ์A9 มีความแน่นเนื้อ 45.5 และ 47 นิวตัน ตามลำดับ ส่วนความสูงของต้นเมื่ออายุ 60 วัน สายพันธุ์A9 มีความสูงมากที่สุด คือ 42.5 เซนติเมตร และฤดูฝนช่วงที่ 2 จะมีความสูงดีที่สุด น้ำหนักหัวต่อพื้นที่เก็บเกี่ยว สายพันธุ์A3 และฤดูแล้งมีน้ำหนักมากที่สุด คือ 35 และ 48.9 กิโลกรัม ตามลำดับ ผลผลิตต่อไร่มากที่สุดในฤดูแล้งและสายพันธุ์A3 ได้แก่ 2,891 และ 1,848 กิโลกรัม ผลผลิตไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงานแปรรูปน้อยที่สุดคือฤดูฝนช่วงที่ 2 ได้แก่ 404 กิโลกรัม ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ในฤดูแล้งและฤดูฝนช่วงที่ 2 มีปริมาณมากที่สุด คือ 5.42 และ 5.26 องศาบริกซ์ และอัตราการงอกของหัวมันฝรั่งที่ดีที่สุดในฤดูแล้ง คือ 97.1 เปอร์เซ็นต์
          ในขณะที่พื้นที่ปลูกจ.ตาก พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์มันฝรั่งและฤดูปลูกที่ต่างกันต่อความสูงของต้น น้ำหนักหัวต่อต้น จำนวนหัวต่อต้น น้ำหนักหัวต่อพื้นที่เก็บเกี่ยว ปริมาณผลผลิตต่อไร่ ปริมาณผลผลิตที่ผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงานแปรรูป และปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ โดยมันฝรั่งสายพันธุ์A3 และ A9 ที่ปลูกในฤดูฝนช่วงที่ 2 มีความสูงต้นสูงที่สุด คือ 91 และ 82.9 เซนติเมตร ตามลำดับ น้ำหนักหัวต่อต้นมากที่สุดเมื่อปลูกสายพันธุ์A3 ในฤดูฝนช่วงที่ 1 คือ 300 กรัม จำนวนหัวต่อต้นที่มากที่สุด คือ พันธุ์แอตแลนติกที่ปลูกในฤดูฝนช่วงที่ 1 คือ 8 หัว ส่วนน้ำหนักหัวต่อพื้นที่เก็บเกี่ยวที่มากที่สุด คือ สายพันธุ์A9 ที่ปลูกในฤดูฝนช่วงที่ 2 คือ 72.8 กิโลกรัม ในขณะที่ฤดูแล้ง สายพันธุ์A3 มีปริมาณผลผลิตต่อไร่มากที่สุด คือ 3,066 กิโลกรัม ปริมาณผลผลิตที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงานแปรรูป ในฤดูแล้ง คือ พันธุ์แอตแลนติก มีจำนวน 1,893 กิโลกรัม ในฤดูฝนช่วงแรก สายพันธุ์A3 ไม่ต่างจาก A9 โดยมีจำนวน 1,989 และ 1,512 กิโลกรัม ตามลำดับ และในฤดูฝนช่วงที่ 2 สายพันธุ์ A3 ไม่ต่างจาก A9 โดยมีจำนวน 1,924 และ 1,919 กิโลกรัม ตามลำดับ ส่วนปริมาณผลผลิตที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงงานแปรรูปน้อยที่สุดเมื่อปลูกพันธุ์แอตแลนติกในฤดูแล้ง คือ 870 กิโลกรัม และปลูกสายพันธุ์A3 ในฤดูฝน คือ 1,020 กิโลกรัม ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ของสายพันธุ์A3 และ A9 มีมากที่สุด คือ 4.6 และ 4.65 องศาบริกซ์ เมื่อปลูกในฤดูแล้ง ส่วนปริมาณแป้งและความแน่นเนื้อไม่พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์และฤดูปลูก โดยปริมาณแป้งสูงที่สุดในฤดูแล้ง คือ 17.2 เปอร์เซ็นต์ และสายพันธุ์A3 17.9 เปอร์เซ็นต์ และความแน่นเนื้อของพันธุ์แอตแลนติกและสายพันธุ์A9 ไม่แตกต่างทางสถิติ มีค่าเท่ากับ 48.6 และ 49.1 นิวตัน และฤดูแล้งมีค่ามากที่สุด คือ 52.9 นิวตัน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 4 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 17-06-2568

แจ้งไฟล์หาย