คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร

รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา

วิธีการปลูกและอัตราปุ๋ยต่อการปลูกงาในสภาพนาชลประทาน

คำหลัก : วิธีการปลูกงา อัตราปุ๋ย สภาพนาชลประทาน

ผู้วิจัย : อรอนงค์ วรรณวงษ์

ผู้ร่วมวิจัย : ลักขณา ร่มเย็น, ประภาพร แพงดา, บุญเหลือ ศรีมุงคุณ, ศิริรัตน์ กริชจนรัช, สมหมาย วังทอง

หน่วยงาน : ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี

ปี: 2560

ประเภทผลงาน: ผลงานวิจัยเรื่องเต็ม

จำนวนผู้อ่าน: 10 ครั้ง

บทคัดย่อ (Abstract)

          การศึกษาวิธีการปลูกและอัตราปุ๋ยต่อการปลูกงาในสภาพนาชลประทาน ดำเนินการในนาเกษตรกร ตำบลคำเจริญ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2559 - 2560 วางแผนการทดลอง 2 x 3 factorial in RCB 4 ซ้ำ 6 กรรมวิธี ปัจจัยที่ 1 คือ วิธีการปลูก 2 วิธี ได้แก่ แบบหว่าน และแบบโรยเป็นแถว ระยะระหว่างแถว 30 เซนติเมตร ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 1 กก./ไร่ ปัจจัยที่ 2 คือ การใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-8 3 อัตรา ได้แก่ 0 25 และ 50 กก./ไร่ ปลูกงาแดงพันธุ์อุบลราชธานี 1 ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน ผลการทดลองพบว่า ปี 2559 ไม่พบปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างวิธีปลูกกับการใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตราต่างๆ ที่มีต่อการให้ผลผลิตงา แต่วิธีปลูกงาแบบโรยเป็นแถวให้ผลผลิต องค์ประกอบผลผลิต จำนวนต้นเก็บเกี่ยวต่อไร่ และน้ำหนัก 1,000 เมล็ดสูงกว่าการปลูกแบบหว่าน จากการทดลองพบว่า การปลูกโดยวิธีโรยเป็นแถวมีแนวโน้มให้ผลผลิตงามากกว่าวิธีหว่านในทุกระดับของการใส่ปุ๋ย งาให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 53 - 76 กก./ไร่ ปี 2560 ไม่พบปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างวิธีปลูกกับการใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตราต่างๆ เช่นเดียวกับปี 2559 วิธีการปลูกและอัตราปุ๋ย 16-16-8 อัตราต่างๆ ต่อการปลูกงาในสภาพนาชลประทานให้ผลผลิตงาไม่แตกต่างกันทางสถิติ ผลผลิตอยู่ระหว่าง 72 - 103 กก./ไร่ ผลการทดลองทั้ง 2 ปี พบว่า การปลูกงาโดยวิธีโรยเป็นแถวมีแนวโน้มให้ผลผลิตมากกว่าวิธีหว่าน การให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ปี พบว่า การปลูกงาแบบโรยเป็นแถว ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 1 กก./ไร่ และใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-8 อัตรา 25 กก./ไร่ งาให้ผลผลิตและผลตอบแทนที่ดีคุ้มค่าการลงทุน

URL Reference :

(ดาวน์โหลด: 4 ครั้ง)

ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 18-06-2568

แจ้งไฟล์หาย